Home ข่าวทั่วไปรอบวัน อนุทินยกคณะใหญ่ไปสนามบินสุวรรณภูมิดูการสกัดไววัสปริศนาจากจีน

อนุทินยกคณะใหญ่ไปสนามบินสุวรรณภูมิดูการสกัดไววัสปริศนาจากจีน

462
0
SHARE

เจ้าหน้าที่สาธารณสุข  ที่ทำงานตรวจสอบคนเดินทางมาจากประเทศจีน  ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อสกัดกั้นไวรัสปอดอักเสบที่กำลังระบาด  ได้พบคนเดินทางมีเชื้อไวรัสปริศนา  ยังไม่ชัดว่าคืออะไร  ทันที เมื่อบ่าย 5 ม.ค.2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ยกคณะใหญ่ไปดูสถานการณ์แล้ว  โดยมีบิ๊กไปด้วยหลายคน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา , นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  ดูความพร้อมด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ  งานคัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงโรคปอดอักเสบ  นายอนุทินให้สัมภาษณ์คณะนักข่าว  ว่า

 

“เรื่องที่เกิดขึ้น ได้มอบให้กรมควบคุมโรค เฝ้าระวัง คัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง ทั้งด่านบก ด่านเรือและด่านอากาศ หากพบผู้มีอาการเข้าข่ายสงสัย ให้ส่งเข้าระบบควบคุมป้องกันโรคทันที ให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก เพราะประเทศไทยมีระบบเฝ้าระวัง คัดกรอง ควบคุมโรคที่ประสิทธิภาพ หากมีรายงานผู้ป่วยที่สงสัย จะทำการแยกกัก  มีการเตรียมความพร้อมทางห้องปฏิบัติการ และทีมสอบสวนโรคติดต่ออันตรายทั้งในส่วนกลางและทุกจังหวัดทั่วประเทศ ด่านควบคุมโรค ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ติดตั้งเครื่องวัดไข้อัตโนมัติระบบอินฟราเรด (Infrared Thermo Scan) 4 จุด พร้อมเจ้าหน้าที่ทำงาน 24 ชั่วโมง ผู้โดยสารทุกคนจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองด้วยเครื่องตรวจอุณหภูมิอัตโนมัติ หากพบมีไข้จะแยกผู้โดยสารตรงประตูทางเข้า ให้สวมหน้ากากอนามัย และพาไปตรวจซ้ำที่ห้องรอส่งต่อ หากพบว่ามีไข้ และมีประวัติมาจากพื้นที่เสี่ยงจะโทรแจ้งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้ส่งรถพยาบาลมารับไปยังโรงพยาบาลที่มีห้องแยกโรคมาตรฐาน ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนปกติที่สนามบินดำเนินการ โดยจะไม่ปะปนกับผู้โดยสารอื่น  ผู้ป่วยจากพื้นที่เสี่ยง จะมีการแยกประตูทางเข้าเฉพาะ หากพบความผิดปกติ จะจัดการทันที ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีเที่ยวบินจากพื้นที่เสี่ยงวันละ 3 เที่ยว ผู้โดยสารวันละประมาณ 500 คนต่อวัน  นอกจากนี้ ยังมีท่าอากาศยานที่รับผู้โดยสารจากพื้นที่เสี่ยงคือท่าอากาศยานดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต ซึ่งจะดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวด  จนถึงปัจจุบัน ยังไม่พบผู้ป่วยในประเทศไทย แต่หากผู้โดยสารพบบุคคลที่มีอาการผิดปกติ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลสถานการณ์ ส่วนผู้โดยสารที่มาจากพื้นที่เสี่ยง อาทิ เมืองอู่ฮั่น ภาครัฐได้มอบเอกสารการปฏิบัติตัวไว้ศึกษาแล้ว  ประเทศไทยเคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้มาก่อนทั้งจากโรคซาร์ส โรคเมอร์ ไข้หวัดนก และสามารถจัดการได้ไม่มีปัญหา ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบสาธารณสุขของไทย อยากวิงวอนการนำเสนอของทุกภาคส่วนให้สื่อสารตามข้อเท็จจริง อย่าสร้างความตื่นตระหนกกับประชาชน เพราะจะเป็นการทำลายบรรยากาศด้านการท่องเที่ยว เรากำลังเข้าสู่ช่วงตรุษจีน และสงกรานต์ การสื่อสารที่สร้างความหวาดกลัว จะกระทบกับภาพรวมการท่องเที่ยวทั้งหมด”

 

mtemnews.com

5 มกราคม 2