Home ข่าวทั่วไปรอบวัน ประธานาธิบดีทรัมป์ชื่นชมประเทศไทยมีระบบป้องกันไวรัสดีที่ 6 ของโลก

ประธานาธิบดีทรัมป์ชื่นชมประเทศไทยมีระบบป้องกันไวรัสดีที่ 6 ของโลก

435
0
SHARE

ประธานาธิบดีทรัมป์ชื่นชมประเทศไทยมีระบบป้องกันไวรัสดีที่ 6 ของโลก

 

เว็บไซต์รัฐบาลไทย เผยแพร่

รองโฆษกฯ ไตรศุลีฯ เผยประธานาธิบดีสหรัฐฯ แจงลิสต์ประเทศไทยมีระบบป้องกันดีที่สุดอันดับ 6 ของโลก

 

วันที่ 27 ก.พ. 2563 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เผยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา โดยเปิดเผยรายงานจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ ได้รับการจัดอันดับทุกประเทศในโลก โดยให้เป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ (Health security) ประเทศไทยติดท็อปเท็นเป็นอันดับที่ 6 จากทั้งหมด 195 ประเทศ และเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศเดียวที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับท็อปเท็นของโลกอันดับที่ 1 ในเอเชีย สำหรับประเทศที่มีความพร้อมในการเตรียมตัวรับมือโรคระบาดดีที่สุดในโลก และมีระบบการป้องกันการติดเชื้อที่ดีที่สุดอย่างรอบคอบ สะท้อนถึงความสามารถของไทยในการรับมือโรคระบาด ทำให้ไทยในขณะนี้ยังไม่เข้าสู่การแพร่ระบาดระดับ 3 และคนไทยติดเชื้อน้อยมากกว่าประเทศอื่น ๆ ในโลก

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ถูกประกาศให้เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 โดยขอความร่วมมือบุคคลที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงให้กักตัวเองอย่างน้อย 14 วัน ปิดกั้นการเกิด Super Spread มั่นใจทุกคนสามารถร่วมรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมได้

………………….

นายกรัฐมนตรีขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวแจ้งประวัติการเดินทาง

วันนี้ เวลา 09.50 น. ณ อาคารรัฐสภา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวย้ำรัฐบาลเฝ้าระวังการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด ในส่วนของคณะรัฐมนตรีที่ได้มีเดินทางไประเทศเสี่ยงทั้ง 3 ท่านนั้นยืนยันว่า ได้เข้ารับการตรวจที่สถาบันบำราศนราดูรเรียบร้อยแล้ว และตรวจไม่พบอาการอย่างใด  แต่ได้สั่งให้ระวังตัวเองและคอยติดตามดูอาการ โดยให้แพทย์ได้นัดเป็นระยะ ๆ ช่วงเวลาที่อาจจะมีการฟักตัว ก็ขอให้ระมัดระวังอย่าอยู่ใกล้กับคนอื่น ทุกคนทราบดีเป็นหน้าที่ของตัวเอง เมื่อมีมาตรการต่าง ๆ ออกมาขอให้ทุกคนร่วมมือ ปัญหาสำคัญอยู่ที่บางคนไม่แจ้ง ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกัน

นายกรัฐมนตรียังได้ได้สั่งการในคณะรัฐมนตรี เลี่ยงการเดินทางไปดูงานในต่างประเทศพื้นที่เสี่ยง และ ให้เปลี่ยนเป็นการดูงานในประเทศแทน เพื่อช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย และจะได้เกิดแก่ประโยชน์ในพื้นที่ เช่น การจัดการประชุมต่าง โดยเฉพาะการประชุมของส่วนราชการต่าง ๆ

………………………..

นายกฯ ห่วงการปกปิดข้อมูลเดินทางประเทศกลุ่มเสี่ยง ขอร่วมกันรับผิดชอบและจำกัดวงการแพร่เชื้อ

ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ห่วงใยเรื่องการปกปิดข้อมูลการเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยขอความร่วมมือประชาชนทุกคนร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคม และจำกัดวงการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยให้ข้อมูลกับคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นแล้วก็ขอให้เป็นบทเรียนที่ต้องช่วยกัน แต่อย่าไปซ้ำเติมกัน ควรใช้โอกาสนี้ให้กำลังใจและหาทางป้องกันแก้ไขปัญหาจะดีกว่า

สำหรับข้อแนะนำของผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หากมีไข้ ไอจาม มีน้ำมูก หรือสงสัยเรื่องอาการของตนเอง ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันทีโดยสวมหน้ากากอนามัยตั้งแต่ออกจากบ้าน เมื่อแพทย์วินิจฉัยพบว่ามีความเสี่ยงและจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อ ผู้รับบริการอาจเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ โดยขอให้ตรวจสอบกับทางโรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชน

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องได้เร่งติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น และผู้โดยสารที่เดินทางด้วยเครื่องบินลำเดียวกันเพื่อให้มารับการตรวจ โดยขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคน พร้อมทั้งยืนยันด้วยว่าที่ผ่านมาได้รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้ออย่างเปิดเผยมาโดยตลอด และมาตรการป้องกันของไทยก็ได้รับคำชมเชยจากนานาประเทศด้วย

 

matemnews.com 

27 กุมภาพันธ์ 2563