วันที่ 1 มีนาคม 2563 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “เรื่องของ อนาคตใหม่” ทำการสำรวจ ระหว่างวันที่ 26 – 27 กุมภาพันธ์ 2563 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,260 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคำตัดสินให้ยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคฯ 10 ปี และการจัดกิจกรรมแฟลชม็อบ ติดแฮชแท็กเพื่อต่อต้านรัฐบาล ของนิสิตนักศึกษา หลังจากผลการตัดสินวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95.0
จากการสำรวจเมื่อถามถึงสิ่งที่แกนนำอดีตพรรคอนาคตใหม่ ควรทำหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินให้ยุบพรรคฯ และตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคฯ 10 ปี พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 33.41 ระบุว่า ยอมรับคำตัดสินของศาลฯ รองลงมา ร้อยละ 25.32 ระบุว่า ใช้สิทธิวิจารณ์ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญโดยสุจริต ร้อยละ 11.35 ระบุว่า แกนนำอดีตพรรคฯ ควรรณรงค์ทางการเมือง ทั่วประเทศ และให้ ส.ส. ที่เหลืออยู่ของอดีตพรรคฯ แสดงบทบาททางการเมืองแทน ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 8.65 ระบุว่า ให้ ส.ส. ที่เหลืออยู่ ของอดีตพรรคฯ มีอิสระย้ายไปสังกัดพรรคไหนก็ได้ ร้อยละ 8.33 ระบุว่า แกนนำอดีตพรรคฯ ควรหยุดบทบาททางการเมือง ร้อยละ 5.71 ระบุว่า ให้ ส.ส. ที่เหลืออยู่ของอดีตพรรคฯ ย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ที่เตรียมไว้ ร้อยละ 4.29 ระบุว่า แกนนำอดีตพรรคฯ ควรเป็นผู้นำชุมนุมทางการเมืองบนถนน และร้อยละ 10.71 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการจัดกิจกรรมแฟลชม็อบ ติดแฮชแท็กเพื่อต่อต้านรัฐบาลของนิสิต นักศึกษา หลังจากผลการตัดสินวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 61.03 ระบุว่า เป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามกฎหมาย รองลงมา ร้อยละ 21.11 ระบุว่า เป็นสัญญาณว่าสังคมไทยจะเผชิญกับความแตกแยกทางการเมืองอีกครั้ง ร้อยละ 12.70 ระบุว่า กังวลว่านิสิต นักศึกษา จะถูกใช้เป็นเครื่องมือ ทางการเมือง ร้อยละ 7.78 ระบุว่า กังวลว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมจนกลายเป็นการจลาจลแบบในฮ่องกง ร้อยละ 6.35 ระบุว่า เป็นแค่กระแสชั่วคราว และร้อยละ 2.46 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความนิยมทางการเมืองของพรรคใหม่ที่จะเกิดขึ้นและได้รับการสนับสนุนจากแกนนำอดีตพรรคอนาคตใหม่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 35.71 ระบุว่า จะได้รับความนิยมทางการเมืองมากกว่าที่พรรคอนาคตใหม่เคยได้ รองลงมา ร้อยละ 24.37 ระบุว่า ไม่แน่ใจ ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในวันข้างหน้า ร้อยละ 22.78 ระบุว่า จะได้รับความนิยมทางการเมืองเท่าๆ กับที่พรรคอนาคตใหม่ เคยได้ ร้อยละ 15.08 ระบุว่า จะได้รับความนิยมทางการเมืองน้อยกว่าที่พรรคอนาคตใหม่เคยได้ และร้อยละ 2.06 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ