หลัก SIX JARS คืออะไร?
เป็นวิธีการจัดสรรการเงินอย่างหนึ่ง ด้วยการเปรียบเทียบการจัดสรรเงินกับเหยือก 6 ใบ และให้เงินเราคือน้ำที่แบ่งใส่ในแต่ละเหยือก แยกตามวัตถุประสงค์ต่างๆ กัน โดยเราสามารถแบ่งเงิน เป็น 6 ส่วน ตามหลัก SIX JARS ได้ดังนี้
.
1. เงินเพื่อการ #ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน (ประมาณ 40% – 50% ของรายได้) ส่วนนี้ควรทำร่วมกับการวางแผนการใช้จ่าย เพื่อให้การใช้จ่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
.
2. เงินเพื่อ #การศึกษา #พัฒนาตัวเอง (ประมาณ 10% ของรายได้) อาจจะเป็นเงินสำหรับการซื้อหนังสือแนวที่เราชอบ ลงคอร์สอบรมที่สนใจ หรือว่าการสอบใบอนุญาตต่างๆ ที่จำเป็นกับการประกอบอาชีพ เป็นต้น
.
3.เงิน #ลงทุนเพื่อการเกษียณ (ประมาณ 10% ของรายได้) เราต้องคิดถึงตัวเองทั้งในปัจจุบันและอนาคต ดังนั้นการวางแผนเก็บเงินเพื่อตัวเองในอนาคตเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยแผนนี้เป็นแผนระยะยาว ดังนั้นเงินก้อนนี้จึงสามารถนำไปลงทุนได้ เพื่อสร้างผลตอบแทนในอนาคตนะครับ
.
4.เงินเพื่อให้ #รางวัลตัวเอง (ประมาณ 10% ของรายได้) หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานและภารกิจ การพักผ่อนและการให้รางวัลตัวเองก็ทำให้เรามีกำลังใจในการก้าวต่อไปเช่นกัน แต่ทั้งนี้การใช้เงินในส่วนนี้ควรอยู่ในสัดส่วนที่ไม่มากจนทำให้เงินเก็บในส่วนอื่นน้อยลงไปมากนะครับ
.
5. เพื่อ #ใช้จ่ายระยะยาว (ประมาณ 10%- 15% ของรายได้) เป็นเงินที่เราวางแผนว่าจะใช้ในอนาคต เช่น การเก็บเงินดาวน์บ้าน หรือการศึกษาบุตร เป็นต้น โดยเราอาจจะเก็บเงินในส่วนนี้ประมาณ 10-15% ของรายได้ และสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อสร้างผลตอบแทนได้ โดยเมื่อใกล้กับเวลาที่วางแผนจะใช้เงิน เราก็สามารถปรับสินทรัพย์ให้ปลอดภัยมากขึ้นได้ครับ
.
6. มอบให้ส่วนรวม #บริจาค (ประมาณ5% ของรายได้) หากเรามีพร้อม เราก็ควรมีการแบ่งปันให้กับคนที่ลำบากหรือมีโอกาสน้อยกว่าเรา เพื่อให้สังคมน่าอยู่ขึ้น โดยเราอาจจะเลือกบริจากให้โรงพยาบาล หรือมูลนิธิต่างๆ ก็ได้ นอกจากนี้เงินในส่วนนี้สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วยนะครับ
.
นี้เป็นเพียงตัวอย่างการจัดการเงินที่ TIPlife นำมาฝากกันนะครับ แต่ว่าทั้งหมดก็สามารถปรับได้ตามแผนการใช้ชีวิตของแต่ละคนนะครับ
.
และเพื่อนๆ วางแผนการเงินกันอย่างไร ส่งมาบอกให้ TIPlife ฟังกันบ้างนะครับ
.