เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2 พ.ย.) เวลา 20.30 น. ขณะที่ ร.ต.อ.วิโรจน์ มูลมานัสรองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรปราการ กำลังปฏิบัติหน้าที่บนโรงพัก ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นที่บริเวณหน้าประตูทางเข้าด้านหน้า จึงได้รีบออกมาดูพบมีแสงเพลิงกำลังลุกไหม้ขึ้นที่บริเวณหน้าโรงพักใกล้กับประตูทางเข้า จึงได้ช่วยกันนำถังเคมีดับเพลิงมาช่วยกันฉีดพ่นเพื่อดับเปลวไฟ ใช้เวลา 5 นาทีเพลิงจึงสงบ ตรวจสอบพบประตูกระจกทางเข้าโรงพักแตกเสียหาย มีเศษขวดแตกกระจายเกลื่อนพื้นและมีกลิ่นน้ำมันเบนซินเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ โดยขณะเจ้าหน้าที่กำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่กับการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ นายรชานนท์ คงชัยยะ เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดนและพวกรวม 3 นาย ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงพักได้ช่วยกันควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ พร้อมรถจักรยานสองล้อปั่นสีชมพูที่ใช้ปั่นขณะก่อเหตุและหลบหนี ก่อนพาส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งพบมีท่าทางคล้ายคนวิกลจริต ทราบชื่อต่อมา นายสุทธินันท์ ฟุ้งสายชล อายุ 39 ปี
ขณะเดียวกัน นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบก. พ.ต.อ.ต่อพงษ์ ตันตระวาณิชย์ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ ร่วมสอบปากคำผู้ต้องหา โดยใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 1 ชั่วโมง โดยนายชาติชาย เผยว่า จากการสอบถามกับมารดาของผู้ก่อเหตุ ทราบว่า เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ผู้ก่อเหตุเคยประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ จนทำให้สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง หลังรักษาจนหายได้ไปสมัครงาน แต่ไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงาน โดยเมื่อ 3 ปีผู้ก่อเหตุชอบนั่งพูดอยู่คนเดียวอยู่เสมอ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะไปทำร้ายใคร และก่อนเกิดเหตุได้เอะอะโวยวายว่าได้ยินเสียงแว่วในหูว่ามีคนมาสั่งให้เอาก้อนหินไปปาหน้าโรงพัก หลังจากนั้นได้ปั่นจักรยานออกจากบ้านพักซึ่งอยู่ภายในซอยยูริ ห่างจากโรงพักประมาณ 1 กม. และไปซื้อน้ำมันเบนซินจากปั๊มปากซอยใส่ขวดแก้วมา 3 ขวด แต่ตนก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร ถามเท่าไรก็ไม่พูด จนกระทั่งมาทราบว่าลูกชายไปก่อเหตุดังกล่าว
ข้อมูลข่าวโดย เดลินิวส์
