Home บันเทิง “แม่พิ้งกี้” พอแล้วลูกเขยรวย ต่อไปขอคนธรรมดา

“แม่พิ้งกี้” พอแล้วลูกเขยรวย ต่อไปขอคนธรรมดา

1722
0
SHARE

หลังจากนางเอกสาวชื่อดัง พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช ออกมาเปิดใจยอมรับว่าได้เลิกรากับสามีไฮโซ เพชร-อิทธิ ชวลิตธำรง ทายาทรุ่นที่ 3 เจ้าของที่ดินรายใหญ่เมืองพัทยาตระกูล “ชวลิตธำรง” แล้วหลังจากแต่งงานกันมา 3 ปี โดยปัจจุบันพิ้งกี้ย้ายกลับมาอยู่กับพ่อแม่แล้ว ล่าสุด “แม่อ้อย สรินยา” แม่นางเอกสาวได้ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

หลังจากมีกระแสข่าวถาโถมเรื่องเลิกสามี ตอนนี้ลูกสาวเป็นไงบ้าง ?
“กระแสอะไรแม่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย มันเป็นเรื่องใหญ่เลยเหรอ ตอนนี้ปกติแล้ว กลับมาทำงานเหมือนเดิม ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องราวเขา ให้ถามเขาดีกว่า คือแม่ก็บอกให้เขาสู้ คนเราต้องเข้มแข็ง ผ่านความทุกข์อะไรก็ไม่ต้องไปจำ จำแต่สิ่งที่ดีอะไรไม่ดีก็ไม่ต้องไปจำ”

ช่วงพิ้งกี้มีปัญหาเขามาปรึกษาแม่ไหม ?
“ปรึกษาแม่ทุกวัน แม่ก็ปล่อยให้เขาคิดเอง โตแล้ว ชีวิตครอบครัวต้องอดทน ใครที่เคยแต่งงานจะรู้ว่าบางอย่างมันก็ทนกันได้ บางอย่างก็ไปกันลำบาก คนถ้าจะเลิกกันแล้วมันก็มีแค่จุดหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าจะถามแบบล้วงลึก เราไม่ต้องลึกเพราะเราต้องให้เกียรติเขาตรงนั้น อย่างช่วงที่เขามาปรึกษา แม่ก็ไม่ได้บอกเขานะว่าให้เลิกๆ ไปเลย เพราะเดี๋ยวพอผัวเมียเขาคืนดีกันเราจะหัวเน่า จริงๆ เขาก็เป็นคนดีไม่ใช่ไม่ดีอะไร แต่ในบางเรื่องคนเราต้องยืดหยุ่นกันบ้าง ซึ่งตรงนั้นผัวเมียเขารู้กันเอง หลายอย่างไม่ต้องให้แม่อธิบายเพราะนักข่าวคงพอรู้ อย่าให้มันออกจากปากแม่ มันจะไม่ดี”

ก่อนหน้านี้พิ้งกี้กับสามี ได้มีปรับจูนเข้าหากันยัง ?
“คนเรามันต้องคิดว่าตัวเองถูกทั้งผัวทั้งเมีย ไม่ว่าจะครอบครัวไหน แต่มันต้องมีกึ่งกลางที่เราจะต้องเดินไปด้วยกัน โดยการมาพบกันครึ่งทาง แต่เมื่อครึ่งทางแล้วยังไม่สามารถปรับได้ ก็ต้องถอยออกมา เคยได้ยินไหมที่เขาบอกว่าคู่นี้เหมาะสมกัน แต่ทำไมถึงเลิก มันต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง”

ในวันที่กี้มาบอกว่าตัดสินใจเลิกกันจริงๆ เราให้คำปรึกษาว่ายังไงบ้าง ?
“แม่บอกไปว่า เราต้องมองนะ ต่อไปจะต้องกลับมาทำงานเองแล้วนะ จะไหวไหม ซึ่งเขาบอกว่าเขาไหว ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เมื่อก่อนอาจจะอยู่กับแฟนแล้วสบาย แต่กลับมาต้องมาสู้ชีวิตใหม่ เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร เขาไหวเพราะเคยลำบาก เคยเหนื่อย แต่เขามีความสุข ทุกวันนี้เขาก็กลับมารับงานปกติเหมือนเดิม ได้มาเจอนักข่าว ก่อนหน้านี้ที่หายไปก็ไม่ได้เจอนักข่าวเลย คือเราอยู่ด้วยกันจนเป็นพี่น้องแล้ว ส่วนถ้าในอนาคตจะมีคู่ต่อไปอีกแม่ก็บอกเขาไปว่า มนุษย์เปลี่ยนความเป็นตัวตนของตัวเองไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเราหลงแสงสี มันไม่ได้”

หลังจากที่ทั้งสองตัดสินใจเลิกกัน ทางเพชรได้เข้ามาพูดคุยหรือขอโทษแม่บ้างไหม ?
“(แม่ส่ายหน้า) ก็บอกตรงๆ ไม่โกหก แม่ไม่ได้คุยกับเขา เขาคงไม่มีคำขอโทษอะไรหรอก เขาโตแล้ว แต่ไม่เป็นไรแม่ไม่ได้ไปโกรธอะไร แม่ก็มีความสุขด้วยที่เขาก็มีความสุขเพิ่มขึ้น ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกัน แม่ว่าแฮปปี้ดีนะ”

ตั้งแต่แต่งงานเขาได้มีการจดทะเบียนสมรสไหม ?
“ไม่ได้จดค่ะ ก็คงยังไม่พร้อมที่จะจดกันเพราะเป็นเรื่องของการทำงาน และเป็นเรื่องในครอบครัวด้วย แม่ไม่ได้สนใจอะไรเพราะมันมีเรื่องกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง จะจดหรือไม่จด ไม่ได้มีผลอะไรขึ้นมา จะไปอยากได้สมบัติเขาก็ไม่ใช่ มันไม่ใช่นิสัยแม่ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องมาคอยจับตามองอะไร เรายังมีสมอง มีเงิน มีกำลังความสามารถ ไม่ต้องมีเงินร้อยล้านพันล้านก็มีความสุขได้ อะไรที่เป็นของคนอื่นไม่เอา”

ตอนเข้าพิธีแต่งงานทางศาสนาอิสลาม หรือนิกะห์ แล้วเลิกกันได้ทำพิธีเด็ดขาดหรือยัง ?
“เราได้ทำของเราแล้วเรียบร้อยแล้ว”

หลังจากหย่า เขาได้ให้สินสมรสอะไรบ้างไหม ?
“อันนั้นอย่ารู้เลย ขอให้เป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ เราไม่อยากพูดอะไร เดี๋ยวพูดแล้วจะวุ่นไปอีก เรื่องนี้ไม่อยากกล่าวถึงค่ะ”

ใช้คำว่าผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดมาได้หรือยัง ?
“มันไม่ได้เลวร้ายหรอก ไม่ถึงขนาดนั้น เขาไม่ได้มาทารุณอะไรเรา แม่ว่าหลักๆ มันเป็นเรื่องความคิดมากกว่า ไม่ได้จะต้องมีเงินพันล้านแล้วแม่จะมีความสุข แม่ขึ้นรถเมล์ได้ อยากกินอะไรก็กินได้ ซึ่งตัวกี้เองเหมือนกัน เป็นคนธรรมดา ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าเป็นแสน ลูกเราขี้เหนียวจะตาย มีแต่เราที่แอบซื้อของ แม่ยังบอกเขาเลยว่ามีสามีรวยก็ไม่เห็นจะมีประโยชน์ เขาไม่ได้จะซื้อกระเป๋าใบละ 4 แสน หรือเป็นล้าน เพชรยังบอกถ้าจะซื้อก็ซื้อไป แต่กี้ไม่เอาเพราะเสียดายเงิน”

ชีวิตหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ?
“ก็ทำงานต่อไปสิคะ ถ้าเขาจะมีหนุ่มใหม่เข้ามา ก็เป็นเรื่องของอนาคต เราจะมานั่งสแกนหรือห้ามเขาไม่ได้หรอก เราไม่สามารถมากำหนดกฎเกณฑ์ มีแต่เจ้าเบื้องบนที่กำหนดมา อะไรที่ยังมาไม่ถึงอย่าไปพูดเลย เราก็คิดว่าทุกอย่างที่ผ่านมาเป็นบทเรียนให้เราได้รู้ว่าทุกชีวิตคือการเรียนรู้ เมื่อได้เรียนรู้แล้วก็จดจำเอาไว้ เขาก็คงรู้ตัวอยู่แล้ว แม่ก็เป็นแค่กำลังใจให้ ความรักมันมีทุกข์กับสุข เวลารักมันก็เป็นกำลังใจให้กัน ทุกอย่างดูเบิกบาน มีความสุข แต่ถ้าไม่สมหวังเมื่อไหร่มันก็ทุกข์ เพราะฉะนั้นถ้าพร้อมที่จะทุกข์ก็มีความรักไปเถอะ ถ้าเขาจะมีความรักใหม่ก็เรื่องของเขา แม่ยังไงก็ได้ ตัวแม่เองเหมือนจะเป็นแฟนเขามากกว่า แต่ถ้าเขาจะมีก็ดูคนที่เป็นธรรมชาติ อย่าไปจำกัดอะไรมาก เอาแบบง่ายๆ กินง่าย อยู่ง่าย”

ต้องไฮโซอีกไหม ?
“คำๆ นี้กลัวมากเลย (ยิ้ม) มันยังหลอนๆ อยู่ เราต้องขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เราได้เรียนรู้คน เรียนรู้อะไรอีกเยอะแยะ แม่ไม่เคยไปโกรธแค้นอะไรใคร กี้ก็เหมือนกัน เราให้อภัยกันไป จำแต่สิ่งดีๆ อะไรไม่ดีก็ลืมไป มันเป็นเรื่องส่วนตัวเขา เราเปลี่ยนเขาไม่ได้หรอก ถูกเลี้ยงดูมาคนละครอบครัว ทางพ่อแม่เขาก็ดีกับกี้มาก ไม่เคยมาวุ่นวายอะไรเลย”

 

ขอบคุณ sanook