ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อสัปดาห์ก่อนเปิดมาเจอข่าวว่า “หัวปลีสด” บ้านเรา กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในกลุ่มผู้ทานมังสวิรัติในยุโรป โดยเฉพาะในประเทศเเยอรมนี ที่ราคาพุงสูงไปกว่า กิโลกรัมละ 1,000 บาท ย้ำ!!!! หนึ่งพันบาท… ตกหัวละ 6 – 8 ยูโร แทบจะโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้ววิ่งไปที่สวนหลังบ้าน
ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยผ่านทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ว่า ขณะนี้ “หัวปลี” กำลังกลายเป็นที่นิยมในตลาดประเทศเยอรมนี โดยเฉพาะกลุ่มผู้ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ หรือ “วีแกน” เป็นอย่างมาก เนื่องจากหัวปลีมีความเหนียวของเส้นใย จึงถูกนำมาใช้เป็นทางเลือกในการปรุงอาหารแทนเนื้อสัตว์ และมีข้อดีที่ไม่ทำให้อ้วน เพราะให้พลังงานเพียงแค่ 17 แคลลอรีต่อ 100 กรัมเท่านั้น
ประเทศไทยเราปลูกกล้วยน้ำหว้าเยอะมากมีทุกภาคทุกจังหวัดเลยก็ว่าได้ และหัวปลีนี่เหลือๆ กันเลยทีเดียว ซึ่งวางขายไว้ตลาดบ้านเราขายในราคาเพียงกิโลกรัมละ 10 บาทเท่านั้น
เมนู “หัวปลี”
เอาจริงๆ มันสามารถนำมาทำเป็น สลัด ยำ แกงประเภทต่างๆ หรือนำไปชุบแป้งเกล็ดขนมปังทอดกรอบก็ได้ แต่ที่เราคุ้นและเคยกินก็คือ แกงหัวหลี และแม่ชอบนำไปต้มกินกับน้ำพริกก็อร่อยดีเหมือนกัน
คุณค่าทางโภชนาการของหัวปลี
– พลังงาน 28 กิโลแคลอรี
– น้ำ 92.3 กรัม
– โปรตีน 1.4 กรัม
– ไขมัน 0.2 กรัม
– คาร์โบไฮเดรต 5.2 กรัม
– กากใยอาหาร 0.8 กรัม
– เถ้า 0.9 กรัม
– แคลเซียม 28 มิลลิกรัม
– ฟอสฟอรัส 40 มิลลิกรัม
– ธาตุเหล็ก 0.7 มิลลิกรัม
– วิตามินเอ 26 ไมโครกรัม
– ไทอะมีน 0.01 มิลลิกรัม
– ไรโบฟลาวิน 0.02 มิลลิกรัม
– ไนอะซิน 0.6 มิลลิกรัม
– วิตามินซี 25 มิลลิกรัม
ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แสดงคุณค่าทางโภชนาการของหัวปลีในปริมาณ 100 กรัม
“หัวปลี” มีคุณสมบัติเป็นยาสมุนไพร
“หัวปลี” มีสรรพคุณมากมาย เช่น บำรุงรักษาฟันให้แข็งแรงขาวสะอาด ช่วยแก้อาการเจ็บท้อง รักษาโรคกระเพาะ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด แก้ร้อนใน เพิ่มธาตุเหล็กในร่างกาย
- บำรุงเลือด
- ขับน้ำนม
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ลดการอักเสบในร่างกาย
- ประจำเดือนมามาก หัวปลีช่วยได้
- ช่วยต้านเศร้า
- รักษาโรคกระเพาะ