นักธุรกิจสาววอน “นกน้อย อุไรพร” เลิกโกหกรีบไถ่ที่ดินคืนก่อนถูกนายทุนยึด พร้อมแจ้งความฐานฉ้อโกง ล่าสุดเจ้าตัวส่งทนายความ ขอเลื่อนเจรจาไปอีก 1 เดือน
กรณี นางอุไร ฉิมหลวง หรือ “นกน้อย อุไรพร” หมอลำดังคณะ “เสียงอีสาน” ยืมโฉนดที่ดิน 33 ไร่ มูลค่า 48 ล้านบาท จาก นางสุดารัตน์ ภูผานี อายุ 46 ปี นักธุรกิจในสหรัฐอเมริกา ไปจำนองกับนายทุนนอกระบบ 3.8 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปเปิดวงเดินสายแสดง เมื่อปี 2559 เพียง 3เดือน แต่ได้ผ่านไปกว่า 3 ปี ยังไม่ได้โฉนดที่ดินคืน จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีฐาน “ฉ้อโกง” ที่ สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อเดือน มิ.ย. 2561 จนเป็นข่าวดัง โดยตกลงว่าจะนำโฉนดมาคืนวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่ายังไม่มีการไถ่ถอนนำโฉนดมาคืนแต่อย่างใด
เมื่อวันที่ 28 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนี้ว่า พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากให้ทนายทั้งสองฝ่ายเจรจากัน ตกลงว่าจะนำโฉนดมาคืนในวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่าเมื่อถึงวันนัดเวลากลับไม่มีการนำโฉนดที่ดินมาคืน และทนายของหมอลำชื่อดัง ได้ขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 25 ก.ย.61 แต่ก็ยังไม่มีโฉนดมาคืน ซึ่งการเจรจาไกล่เกลี่ยได้ดำเนินการไปตามกรอบเวลา แต่ทางด้านคดี พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เจ้าของคดีก็ดำเนินไป โดยเรียกพยานฝ่ายนางสุดารัตน์ มาสอบสวนปากคำเสร็จแล้ว นอกจากนี้ยังได้เชิญนายทุนที่รับจำนองโฉนดมาสอบสวนปากคำด้วย
“พนักงานสอบสวนสอบปากคำนายทุน พร้อมไกล่เกลี่ยคิดดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด และนำเงินดอกเบี้ยที่จ่ายทุกเดือนมาหักเงินต้นและดอกเบี้ยตามกฎหมายกำหนด ทำให้เหลือหนี้ที่จะต้องนำมาไถ่โฉนดที่ดินคืน 2.1 ล้านบาทเท่านั้น แต่คุณนกน้อยยังไม่มีเงินไปไถ่โฉนดคืน ทางพนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกมาพบ เพื่อสอบสวนปากคำครั้งแรก ในวันที่ 28 ก.ย. โดยตำรวจส่งหมายเรียกไปที่บ้านแต่ทางคุณนกน้อย ให้ทนายคนใหม่แจ้งว่า ขอเลื่อนนัดเพราะติดธุระ จะขอมาพบในวันที่ 30 ต.ค.61 แต่ตำรวจสั่งให้มาพบเวลา 10.00 น.วันที่ 8 ต.ค.นี้ และได้แนะนำให้นางสุดารัตน์ นำเงินไปไถ่โฉนดที่ดินคืนมาก่อน เพราะถ้าคิดมูลค่าที่ดินแล้วมันต่างกันมาก ถ้าโฉนดหลุดมือไปจะไม่คุ้ม” พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ กล่าว
ต่อมา ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง นางสุดารัตน์ ภูผานี ขอข้อทราบข้อเท็จจริง จึงเดินทางไปบ้านของนางสุดารัตน์ ที่ ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยนางสุดารัตน์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ให้ทนายเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ว่าจะนำโฉนดมาคืนวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าแม่นกน้อยไม่มีเงินมาไถ่โฉนดจากนายทุนคืนมาให้ และขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 25 ก.ย.แต่ก็ยังไม่ได้เหมือนเดิม ซึ่งทราบว่าทนายแม่นกน้อยได้ขอถอนตัว เพราะทนายแนะนำอะไร แม่นกน้อยก็ไม่ยอมทำตาม ทำให้เสียคำพูดกับผู้ใหญ่ ส่วนตนได้เลื่อนตั๋วเครื่องบินกลับสหรัฐอเมริกา จากวันที่ 13 ก.ย. มาเป็นวันที่ 4 ต.ค. ซึ่งเลื่อนเป็นครั้งที่ 5 แล้ว และยังไปขอต่อสัญญากับนายทุนอีก 3 เดือน
“นายทุนบอกจะต่อให้อีกเพียงเดือนเดียว ถึงวันที่ 25 ต.ค.นี้เท่านั้น ซึ่งตำรวจได้แนะนำให้ตนนำเงิน 2.1 ล้านไปไถ่โฉนดออกมาก่อน ถ้าตนมีเงินสดจะมาร้องทุกข์กับตำรวจทำไม หากถึงวันที่ 25 ตุลาคม ยังไม่ได้ที่ดินคืน และจะต้องถูกยึดที่ดินคงเสียใจ เพราะนายทุนให้ไปหาเงิน 2.1 ล้านบาทมาไถ่ถอน ก็ไม่รู้จะเอาจากไหน มันไม่ยุติธรรมสำหรับเราเลย ที่ว่าเราเป็นคนมาร้องทุกข์ แต่กลับมีทุกข์มากกว่าเก่า” นางสุดารัตน์ ภูผานี ผู้เสียหายกล่าว
นางสุดารัตน์ บอกอีกว่า หลังจากแม่นกน้อยผิดนัด ไม่นำโฉนดมาคืน ทำให้เสียใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ อยากฝากบอกแม่นกน้อยว่า เลิกโกหกได้แล้ว ให้ออกมารับผิดชอบ เมื่อครั้งที่แม่นกน้อยลำบาก เรายังออกมาช่วยเหลือ แต่ครั้งนี้เราลำบาก ต้องการนำโฉนดที่ดินไปแบ่งขาย นำเงินไปลงทุนทำธุรกิจที่อเมริกา ขอให้แม่นกน้อยช่วยไถ่โฉนดที่ดินให้คืน อีกทั้งนายทุนอุตส่าห์ลดหนี้ให้เหลือ 2.1 ล้านบาท ถือว่านายทุนถอยให้เยอะมากแล้ว แต่ให้ถึงวันที่ 25 ต.ค.นี้ แม่นกน้อยก็น่าจะนำเงินมาไถ่โฉนดคืนให้ได้ เรื่องจะได้จบ เราจะได้กลับอเมริกาไปทำธุรกิจที่ทิ้งไว้หลายเดือนเสียที”
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานได้ติดต่อไปยังสามีของ นกน้อย อุไรพร เพื่อจะขอสัมภาษณ์นกน้อย อุไรพร อีกครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ คาดว่าอาจจะเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์มือถือไปแล้ว
ขอบคุณข่าวจาก workpointnews
