จากกรณีที่ สาวงามจากสาธารณรัฐเซียร์ราลีโอน“มารี เอสเธอร์ บังการู” มารายงานตัวไม่ทันตามกำหนดกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018โดยมารายงานตัวภายหลังจากกองประกวดทำกิจกรรมเก็บตัวไปได้เกือบ 2 สัปดาห์แล้วนั้นซึ่งถือเป็นนางงามคนสุดท้ายที่มาร่วมการประกวด จึงเป็นข้อสงสัยให้กับบรรดาแฟนนางงามว่าสาวงามคนดังกล่าวจะได้เข้าประกวดหรือไม่
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม นางปิยภรณ์ แสนโกศิกหนึ่งในผู้บริหารทีพีเอ็น 2018 ผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018อย่างเป็นทางการ ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนการประกวดรอบชุดประจำชาติที่ศูนย์ประชุมนานาชาตินงนุช พัทยา (NICE) ภายในสวนนงนุช พัทยา จ.ชลบุรี ว่า
จากการที่ นางสาว มารี เอสเธอร์ บังกูรา นางงามจากสาธารณรัฐเซียร์รา ลีโอน ไม่เข้าร่วมการประกวดนั้น เนื่องจากได้เดินทางมาเลยกว่ากำหนดตามกฎระเบียบของกองประกวด ที่ต้องลงทะเบียนภายในวันที่ 2 ธันวาคม ซึ่งก็ต้องทำตามกฎระเบียบ เพราะว่าผู้เข้าประกวดประเทศอื่นๆ ได้ทำกิจกรรมและเก็บคะแนนไปบ้างแล้ว เช่นทัศนคติต่างๆ กองประกวดมิสยูนิเวิร์สเห็นว่าเมื่อเธอเดินทางมาถึงแล้ว ก็ให้การต้อนรับดูแลอย่างดี จัดสถานที่พัก และจะพาเธอมาชมกิจกรรมการประกวดในทุกรอบต่อจากนี้ เพื่อจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพราะเธอตั้งใจจะลงประกวดอีกในปีหน้า
นางปิยภรณ์ เผยอีกว่า ในการที่เธอเดินทางมาล่าช้านั้น ตัวนางงามให้เหตุผลว่า ประเทศเธออยู่ในภาวะสงคราม สถานทูตไทยก็ไม่มี การเดินทางมีความยากลำบาก ต้องเดินทางจากประเทศเซียร์รา ลีโอน ไปยังประเทศกานา ต่อไปยังไนจีเรีย และเอธิโอเปีย แล้วค่อยเดินทางมาประเทศไทย ต้องเดินทางถึง 4 จุดพัก ด้วยกระเป๋าเดินทาง 1 ใบ เราจึงเห็นใจและให้การดูแลอย่างดี
ทั้งนี้ จากที่ได้พูดคุย นางงามรู้สึกประทับใจในน้ำใจของคนไทย พร้อมกับบอกว่า คนไทยทุกคนโชคดี ที่เกิดมาในประเทศที่อุดมสมบูรณ์ ปราศจากสงคราม และอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ฟังแล้วรู้สึกว่าโชคดีที่เกิดมาเป็นคนไทย
“สำหรับการประกวดครั้งนี้ทางกองประกวดได้จัดอย่างเต็มที่ สุดความสามารถ โดยเฉพาะในการจัดการประกวดยิ่งใหญ่อลังการ ใช้ทีมงานจากต่างประเทศที่เคยทำ ซูเปอร์โบล์ว และ ออสการ์มาทำงานร่วมกับทีมอันดับ 1 ของเมืองไทย ฝรั่งเห็นแล้วก็พูดว่า วิเศษมากแม้จะใช้งบประมาณเยอะแต่ก็ต้องทำให้เต็มที่” นางปิยภรณ์ กล่าว
ด้าน นางสาวมารี เอสเธอร์ บังกูรา กล่าวว่า รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมาก ที่เดินทางมาถึงเมืองไทย ตนอยากที่จะมาเผยแพร่วัฒนธรรม และประเทศของตนเอง และการได้มาไทยครั้งนี้ ก็จะได้เรียนรู้และประสบการณ์อย่างมากมาย ดีใจที่ได้พบปะกับผู้คน รวมถึงการต้อนรับเป็นอย่างดี
สำหรับประเทศเซียร์ราลีโอน ซึ่งอยู่ในทวีปแอฟริกาตะวันตก เพิ่งมีการจัดการประกวดมิสเซียร์ราลีโอน ครั้งแรกในปี 2017 โดย “มารี เอสเธอร์ บันกุรา” ถือว่าเป็นนางงามคนที่ 3 ที่ได้รับตำแหน่งดังกล่าว และเป็นคนที่ 2 ที่ได้สิทธิ์ร่วมประกวดเวทีระดับนานาชาติ
และหลังจาก”มารี เอสเธอร์บันกุรา”รับตำแหน่ง เธอมีอาชีพเป็นนางแบบและเริ่มต้นวางแผนการเดินทางเข้ามาร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่ ประเทศไทยทันทีเพราะรู้ดีว่าขั้นตอนต่างๆ นั้นไม่ง่าย ทั้งด้วยเหตุผลเกี่ยวกับระยะเวลาที่กระชั้นชิด เพราะเธอเพิ่งจะได้รับตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมานี้เองรวมถึงปัญหาภายในประเทศ ที่เพิ่งจะผ่านสงครามการเมืองที่มียาวนานมาหลายปีและที่สำคัญก็คือที่ประเทศเซียร์ราลีโอนนั้นไม่มีสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำอยู่ให้เธอขอวีซ่านั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก มติชน,เนชั่น