พระคาร์ดินัลด์จอร์จ เพลล์ พระชั้นผู้ใหญ่ระดับสูงในวาติกัน อดีตที่ปรึกษาพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกตัดสินจำคุก 6 ปี ข้อหาล่วงละเมิดทางเพศและกระทำชำเราเด็กผู้ชาย 2 คนที่เป็นสมาชิกวงร้องประสานเสียงในโบสถ์ช่วงปลายทศวรรษที่ 1990s โดยเข้ารับฟังคำพิพากษาที่ศาลในเมืองเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (13 มี.ค.)
เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากที่พระคาร์ดินัล หรืออาร์คบิชอปแห่งเมลเบิร์น (สมณศักดิ์ขณะนั้น) จับได้ว่าเด็กสองคนดังกล่าวแอบดื่มไวน์ที่ใช้ประกอบพิธีภายในโบสถ์ จึงบังคับให้เด็กมีเพศสัมพันธ์ด้วย แม้ว่าเด็กทั้งสองจะร้องไห้และอ้อนวอนให้ปล่อยพวกเขาไปก็ตาม โดยเด็กทั้งคู่เก็บงำสิ่งที่เกิดขึ้นมานานกว่า 20 ปี ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองวิกตอเรียในปี 2015
ศาลเมืองวิกตอเรียไม่ได้เปิดเผยรายชื่อผู้ตกเป็นเหยื่อทั้งสองคน ระบุแต่เพียงคำพูดของหนึ่งในพวกเขาว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่าละอาย รู้สึกโดดเดี่ยว และเศร้าใจ” ในขณะผู้เคราะห์ร้ายอีกคนเสียชีวิตลงจากการเสพเฮโรอีนเกินขนาดเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งพ่อของผู้เสียชีวิตได้ให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่าลูกชายของเขาเป็นเด็กที่สดใสร่าเริง ชอบทำกิจกรรมต่างๆ จนได้เป็นนักกีฬาและนักเรียนทุนของโรงเรียน กระทั่งได้มาเข้าร่วมคณะประสานเสียงในโบสถ์เซนต์แพทริก และเริ่มรับรู้ได้ว่าเขามีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป เขาถูกไล่ออกจากวง สูญเสียทุน และเริ่มเสพเฮโรอีน จนต้องจบชีวิตลงในที่สุด
ข่าวคราวของพระหรือนักบวชระดับสูงในศาสนจักรล่วงละเมิดทางเพศและกระทำชำเราเด็กเกิดขึ้นและถูกเปิดโปงอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้มีผู้คนจำนวนไม่น้อยตั้งคำถามว่าโบสถ์ต่างๆ เหล่านี้ยังคงเป็นแหล่งพึ่งพิงทางจิตใจและปลอดภัยสำหรับทุกคน โดยเฉพาะลูกๆ ของพวกเขาหรือไม่ จากสถิติของ Australia’s Royal Commission และ Institutional Child Sex Abuse เมื่อปี 2017 ระบุว่าพระในคริสตศาสนานิกายโรมันคาทอลิกถึง 7% ทั่วออสเตรเลียล้วนเคยมีประสบการณ์ล่วงละเมิดทางเพศเด็กๆ มาแล้วทั้งสิ้นตลอดระยะเวลากว่า 60 ปีที่ผ่านมา
