ผลิตภัณฑ์ PCare Skincare ทุ่มทุนกว่า 10 ล้านบาท ดึงคุณปู -ไปรยา ลุนด์เบิร์ก ขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์ ในวันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2562 ณ วาระเวลา การ์เด้น ฮอลล์ เลียบทางด่วนรามอินทราภายในงานจะได้ร่วมพูดคุยกับพรีเซ็นเตอร์สุดสวยอย่าง “ปู-ไปรยา ลุนด์เบิร์ก” ที่จะมาเผยเคล็ดลับการดูแลผิวให้สวยใสไร้ที่ติปิดท้ายด้วยความสนุกสุดมันส์ไปกับมินิคอนเสิร์ตจากวงแสตมป์ อภิวัชร
งานนี้นักข่าวก็ไม่พลาดที่จะสัมภาษณ์เรื่องที่ แมทธิว บราก แฟนหนุ่มชาวสวีเดน คุกเข่าขอแต่งงานที่ประเทศญี่ปุ่น ไปเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังทั้งคู่ศึกษาดูใจมากว่า 3 ปี
เล่าบรรยากาศที่ถูกขอแต่งงาน?
“เราคบกันมา 3 ปีแล้ว คุณแมทธิวและครอบครัวเขาค่อนข้างซีเรียสกับการให้เกียรติผู้หญิง เขาเลยมองว่าถึงเวลาแล้วที่จะมอบความมั่นคงและเป็นคำสัญญาให้กับปู เลยรู้สึกอยากเซอร์ไพรส์คุกเข่า ในใจเขาคือเรายังไม่มีฤกษ์วันแต่งงาน แต่เขารู้สึกอยากให้เกียรติปู เขาพูดตรงๆ”
โมเมนต์ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง?
“จริงๆ ไม่รู้ตัวเลย วันแรกเราไปเดินหาซากุระที่โตเกียว เราก็เดินถ่ายรูปกัน แล้วปูจะไปที่สวน ที่เขาขอแต่งงาน แต่เขาบอกอย่าเพิ่งไป(หัวเราะ) พอวันที่ 2 เขาจ้างวงดนตรีมาเป็นเซ็ทตรงนั้น จ้างเอ็กซ์ตร้ามา 19 คน ให้ยืมล้อมวงดนตรี แล้วคุณแมทเขาบอกว่า ทั้งชีวิตเธอเหมือนอยู่ในหนัง เพราะเราเล่นหนัง เล่นละครมาตลอด แล้วถ้าครั้งนี้เธอเขียนตอนจบแบบที่เธอต้องการได้ เธอจะว่ายังไง แล้วเขาก็ปรบมือ เอ็กซ์ตร้าก็เคลียร์ออก แล้วเขาก็คุกเข่าขอ”
ตอนนั้นน้ำตาไหลเลยไหม?
“ปูไม่ได้เป็นผู้หญิงที่อึ้งแล้วน้ำตาไหล แต่ตอนนั้นช็อกอยู่แปปนึง แล้วตอบโอเค เยส”
เขาบอกมั้ยว่าเตรียมการนานขนาดไหน?
“เขาบอกว่าเตรียมการยากมาก หนึ่งคือเขาไม่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อน นี้เป็นครั้งแรก และเขาพยายามหาอีเวนต์ออแกไนซ์ที่ญี่ปุ่น ก็หาไม่ค่อยได้ แต่คือปูมารู้ทีหลังว่า ตอนวันเกิดปูแล้วเราอยากจะไปเยี่ยมศูนย์ช้างที่เชียงใหม่ พอดีว่าไกด์ที่ดูแลน้องช้าง เขาพูดภาษาญี่ปุ่นได้ คุณแมทธิวเลยคว้าไกด์แล้วบอกขอให้ช่วยเขาหน่อยที่ญี่ปุ่น หาคน หาวงดนตรี ต้องขอบคุณศูนย์ช้าง elephant pride sanctuary ไปเยี่ยมเขาเยอะๆ นะ”
แสดงว่าหลายเดือนกับการเตรียมเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน?
“เขาคงคิดมาสักพักนึงแล้ว เพราะเขาเป็นคนที่ทำอะไรแล้ววางแผน แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ มันไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องรีบหาวันแต่งงาน เรามองว่าเป็นการหมั้น เป็นคำสัญญามากกว่า เป็นการให้เกียรติผู้หญิง เขาพูดกับปูเสมอว่า ใจเขาอยากให้ปูรู้สึกว่าปูมีคุณค่า”
ตอนนี้ความรู้สึกเหมือนเลื่อนมาอีกสเต็ปแล้ว?
“ใจปูก็รู้สึกเหมือนเป็นคนที่มีคุณค่า ขอบคุณที่เขาให้เกียรติเรา เขารู้ด้วยว่าปูอยากตั้งใจทำงาน เขาเองก็อยากทำงาน ตอนนี้พอเรามีความมั่นคงขึ้นในชีวิต รู้แล้วว่าตัวเองจะไปในทิศทางไหน เราสามารถวางแผนชีวิตได้มากขึ้น เพราะปูต้องอยู่ระหว่างอเมริกากับไทย ทั้งงานเมืองนอกและงานเมืองไทย มันบินค่อนข้างเยอะ แต่ตอนนี้เราคุยกันตกลงกันได้แล้ว เพื่อต่างคนต่างไม่ต้องบินหากัน”
มีแพลนมั้ยว่าจะปลายปีหรือปีหน้า?
“ตอนนี้ยังไม่มีฤกษ์ค่ะ เขาพูดอยู่เสมอว่าอยากให้เกียรติปู”
หลังจากขอเราแล้ว เขาได้มีเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ทางเราหรือยัง?
“คุณแม่คุณพ่อเขาก็ดีใจ ส่วนทางเรา จริงๆ ปูไม่รู้เลย แต่คุณแมทขอพ่อแม่ปูไปแล้ว เขาขอก่อน เขาบอกว่าตามทำเนียมเขาต้องขออนุญาตพ่อก่อน ถ้าพ่อไม่ให้คือไม่ให้ แต่ถ้าให้คือให้”
ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยเรื่องนี้ก่อนไหม?
“จริงๆ เขาก็มีแบบแย้มๆ แต่ปูไม่คิดว่า 3 ปีจะนี้ สำหรับแมทธิวเขาเป็นคนจริงจังกับชีวิต และเขามองว่า 3 ปีแล้วขอดีกว่า”
เราเจอโมเมนต์นี้ ทำให้เรารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ใช่ จนเราอยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยเลยมั้ย?
“ปูเซย์เยส ก็ด้วยเหตุผลนั้น มั่นใจค่ะ แต่สำหรับปู ปูผ่านชีวิตมาเยอะ มีทัศนคติที่ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่แล้ว เลยมองชีวิตคู่เป็นอะไรที่มากกว่าการแค่ขอแต่งงานใต้ต้นซากุระ มันคือการให้เกียรติซึ่งกันและกันในทุกๆ วัน และการทำสิ่งดีๆ ให้กัน วินาทีที่เขาขอ สิ่งที่คิดสิ่งแรกคือเราสามารถทำให้เขามีความสุขได้ทุกวันมั้ย และเขาสามารถทำให้เรามีความสุขได้ทุกวันมั้ย”
ประทับใจในสิ่งที่เขาทำให้ยังไงบ้าง?
“จริงๆ คุณแมทเขาเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว เขาก็ทำอะไรแบบนี้ตลอด ตอนเขาเขียนซีรีส์ เขาเขียนบทบทประพันธ์ให้ปูยิ้ม เขาเป็นสายติสท์ โรแมนติกอยู่แล้ว เราก็ดีใจค่ะ”
แล้วเรื่องงานของเราวางแผนยังไงต่อ?
“ตอนนี้เต็มที่ค่ะ ปูว่าตอนนี้มันง่ายกว่าเดิมเพราะว่าตอนที่เราเป็นแค่แฟนกันมันไม่มีคำสัญญาหรืออะไร เรารู้สึกว่าเหมือนตัวเราต้องติดกันตลอดเวลาเพราะว่าเราต้องบินไปหากัน แต่ตอนนี้ทุกอย่างเป็นทางการและชัดเจนเขารู้ด้วยว่าใจปูมีความฝันที่อยากทำ และเขาเองก็มีความฝัน คำว่าแต่งงานมันเป็นสิ่งหนึ่งในอนาคต แต่อันนี้คือการให้เกียรติกันและกันว่าไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนทำอะไร มันคือ คำสัญญาว่าจะให้เกียรติกันและกัน และเขาก็พูดกับปูว่า ถ้าความฝันของเธอคือการไปเรียนการแสดง อยู่เมืองนอกและทำงาน งั้นฉันบอกเลยว่าฉันอนุญาตให้เธอทำเต็มที่เลย ปูก็เลยรู้สึกว่านี่แหละคือผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษ และสนับสนุนในชีวิตปู”
พูดถึงแหวนหน่อย เพชรเม็ดโตมาก?
“สวยค่ะ (หัวเราะ) เขาก็เครียดเหมือนกันตอนที่เขาเลือกแหวน เขาก็ไม่รู้ว่าปูจะชอบไหม แต่จริงๆแล้วชอบค่ะ”
ใช้เป็นแหวนแต่งงานเลยไหม?
“จริงๆ ตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยหวังแหวนจากคนอื่น หวังแหวนจากการทำงานของตัวเอง เลยบอกว่าเขาเป็นคนเลือกแหวนเก่ง เพราะถ้าปูเลือกให้ตัวเองปูก็เลือกประมาณนี้ ก็ถูกใจ ขอบคุณนะคะที่เห็นคุณค่าของปู”
ถึง 10 ล้านไหม?
“ไม่ถึงมั้งคะ ไม่รู้ราคาค่ะ ไม่กล้าถาม ให้เกียรติเขาดีกว่า แต่ให้วงเดียวพอนะคะ แต่งงานไม่ต้องให้แล้ว เก็บเงินให้ครอบครัวดีกว่า”
ใส่ติดตัวตลอดไหม?
“ใส่ติดตัวตลอดค่ะ คุณแมทบอกว่าให้แล้วไม่ควรถอดนะคะ เราก็โอเค แต่ก็ต้องระวังเวลาไปถ่ายละครก็ห้อยไว้บนสร้อยพระแล้วให้ผู้ช่วยห้อยไว้ที่คอ (หัวเราะ) ไม่กล้าถอดค่ะ คุณแมทค่อนข้างถือ บอกว่าควรจะใส่ตลอดเวลา”
เป็นการจองไว้ก่อน?
“(หัวเราะ) ค่ะ “
เรื่องงานเราก็ดำเนินตามความฝันต่อ ?
“ไม่หยุดแน่นอนค่ะ วันที่มีข่าวขอแต่งงานออกมาลูกค้าก็โทรแสดงความยินดี แถมได้โฆษณาเพิ่มมาอีกหนึ่งตัวด้วย ดีใจ ทุกคนก็ถามเรื่องแพลน เราก็รู้สึกว่าแพลนหนักกว่าเดิมแล้วเพราะคุยกับคุณแมทเรื่องแพลนปีหน้า และอีก หนึ่งปี สองปี สามปีข้างหน้า ปูอยากทำอะไรบ้าง ใจเขาเองก็อยากให้ปูไปเรียนการแสดงที่อเมริกาและโฟกัสกับสิ่งนั้นจริงๆ”
เรื่องแพลนงานแต่งละ ?
“ตอนนี้ยังไม่ได้วางฤกษ์ แต่ทั้งคู่เป็นคนมีวิสัยทัศน์ที่ค่อนข้างยาวในการใช้ชีวิต และปูค่อนข้างซีเรียสกับเรื่องนี้ อย่างที่บอก การเป็นแฟนกัน 3 ปี มันเป็นบทบทสอบ การหมั้นกันอีกสักพักนึงก็เป็นบททดสอบ และวันแต่งงานจะทำยังไงให้มันอยู่รอด ชีวิตคู่คือความอดทนและความเข้าใจเลยต้องใช้เวลา ถามตัวปูเองเรื่องงานแต่งยังไม่มีวันที่ในหัวเลย ปูค่อนข้างเชื่อเรื่องฤกษ์ วันที่ เลยอยากเอาเรื่องหมั้นก่อนและเรื่องงานแต่งงานค่อยเป็นอีกสเต็ปนึง”
รอฤกษ์หมั้นก่อน?
“ปูรอขั้นตอนชีวิตเหมาะมากกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือ เราอย่าทำอะไรให้มันเร่งรีบ ให้เวลาเป็นบททดสอบและบทพิสูจน์ ปูว่าใช้เวลาทุกวันอย่างมีความสุข ก็คงเอาเรื่องพิธีหมั้นก่อน คุณแมทเป็นคนวางแผนชีวิตชัดมากและปูก็รู้ว่าแพลนชีวิตเขาคืออะไรเขาอยากให้ปูทำในสิ่งที่ปูฝัน และเขาเองก็อยากจะสร้างธุรกิจให้สำเร็จก่อน”