Home ฉลามเขียว ประเทศไทยจะไม่มีบุหรี่

ประเทศไทยจะไม่มีบุหรี่

1559
0
SHARE

 

 

“หลายๆ ประเทศก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีการใช้ประโยชน์จากสารสำคัญของกัญชาในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งยา อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง จำนวนมาก ทั้งที่กฎหมายของประเทศเหล่านั้นก็จัดกัญชาเป็นยาเสพติด  จึงน่าเสียดายที่ไทยไม่มีการพัฒนาต่อในช่วงที่ผ่านมา เพราะไม่กล้าเสี่ยง เนื่องจากกฎหมายไทย จะออกซ้าย ออกขวาก็ได้ ทำให้หลายอย่างไม่เกิด แม้แต่รัฐธรรมนูญเองก็ยังทำให้เกิดการตีความ บางวันถูก บางวันผิด ทำให้คนที่ตั้งใจทำอะไรก็ไม่กล้าเสี่ยง หากคิดเช่นนี้ก็ไม่เกิดความก้าวหน้า ส่วนผมคิดว่าเพื่อประโยชน์ของประชาชน ประเทศ เลยคิดว่าไม่น่าเป็นอะไร  รัฐบาลที่ผ่านมามีการปรับแก้กฎหมายเพื่อให้เกิดการพัฒนากัญชา  แต่ยังมีขอบข่ายจำกัด ยุคผมมองเรื่องการเอามาใช้ประโยชน์ในวงกว้าง พยายามทลายข้อจำกัด โดยมีการใช้ทางการ  และเก็บข้อมูล  หากได้ผลดีก็ขยับขยาย แต่การปลูกต้องมีขอบเขต ควบคุมชัดเจน ส่วนการปลูกบ้านละ 6 ต้น  เกิดขึ้นแน่ เมื่อทุกคนมีความรู้ มีความเข้าใจ ผมมีแนวคิด  คือ  อยากให้มีระบบเช็คลิสต์ ดูว่ามีทุนเพียงพอ มีสถานที่ถูกต้อง มีการจ้างงานถูกต้อง การปลูก การบำรุงถูกต้อง ก็มาขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา  เพื่อปลูกจะทำให้กระบวนการเร็วขึ้น แต่ขอย้ำว่าผู้มาขออนุญาตต้องรับประกันตัวเอง เมื่ออย.ไปตรวจถ้าทำผิดจะลงโทษขั้นสูงสุดโดยไม่มีการเจรจา นี่คือสิ่งที่ผมอยากเห็น ถ้าผมได้อยู่นานก็อาจจะได้เห็น แต่ถ้าอยู่ไม่นานก็อยากฝากเลขาธิการอย.ด้วย เพราะท่านอยู่อีกนาน ยังไม่เกษียณ ฝากนำเรื่องนี้ไปคิดต่อด้วย เพราะต้องรับนโยบายของทุกรัฐมนตรีอยู่แล้ว และนี่ก็เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลอยู่แล้วด้วย ผมรับปากประชาชนแล้ว จะทำให้ได้มากที่สุดเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ประชาชน ประเทศชาติ ถ้าสามารถผลักดันให้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์เข้าระบบบัญชียาหลักแห่งชาติเพื่อรักษาผู้ป่วยได้ ผมคงยิ้มไปได้ทั้งชาติ  จะสำเร็จได้ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน  การแก้ประกาศยกระดับหมอพื้นบ้านตามกฎใหม่   เดิมให้เป็นหมอพื้นบ้านตามกฎหมายใหม่ มีการส่งร่างให้ผมลงนามแล้วเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2562 แต่ต้องตีกลับ   เพราะยังมีถ้อยคำที่ให้หมอพื้นบ้านต้องไปให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดออกใบรับรองใหม่ ผมขอให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกตัดออก   คาดว่าสัปดาห์หน้าจะลงนามได้”

 

อ่านข้อความชิ้นนี้ในข่าวจบลง  ตัวผมกรี๊ดและสลบเลยครับ

 

เป็นคำกล่าวของท่านรองนายกฯควบสาธารณสุข “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  กล่าวในการเป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการวิจัยเชิงคุณภาพ มุมมองหลากมิติของการกำหนดทิศทางกัญชาทางการแพทย์ จัดโดยองค์การเภสัชกรรม ที่โรงแรมอีสติน สาทร เช้า 2 ส.ค.2562

 

ถึงขั้นกรี๊ดสลบเลยรึ นายฉลามเขียว

 

ก็ค่อยๆติดตามอ่านต่อไปนะครับ  ผมจะเขียนเรื่องนี้อีกหลายครั้ง เขียนหลายตอนมาก เพราะไม่ใช่เรื่อง่ายกว่าจะเกิดเป็นความสำเร็จอันบริบูรณ์

 

เขียนโดยผมเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่า  ท่านรัฐมนตรี  “อนุทิน ชาญวีรกูล” จะเป็นพระเอกในเรื่องนี้  จากที่ขณะนี้ท่านเป็นพระเอกกัญชาอยู่แล้ว

 

ผมเคยทำงานให้ท่านรัฐมนตรีอนุทิน  ศรัทธาท่าน  เพราะได้เห็นแล้วเป็นคนจริง  พูดตรงไปตรงมา  คำไหนคำนั้น  ไม่เคยพูดอย่างนักการเมือง  แม้เวลานี้ผมเข้าไม่ถึงท่านแล้วก็ยังศรัทธาอย่างแข็งแรงอยู่เหมือนเดิม

 

และนำเรื่องนี้มาเขียนกราบเรียนท่าน  ทั้งๆที่รู้ว่าท่านก็รู้เรื่องดีอยู่แล้ว  แต่ผมก็นำมาเขียนเพื่อประกาศการสนับสนุน  จะเขียนต่อไปจนกว่าท่านรัฐมนตรีอนุทินจะทำสำเร็จ  และผมเชื่อว่าสำเร็จ

 

ประเด็นของผมคือ

 

ประเทศไทยจะไม่มีบุหรี่ โดยผู้ชายชื่อ “อนุทิน ชาญวีรกูล”

 

วันแรกที่ท่านหัวหน้าพรรคภูมิใจที่ชื่อว่าอนุทิน นำพลพรรคของท่านประกาศนโยบาย “กัญชาเสรี”  ประชาชนปลูกกัญชาได้วันละ 6 ต้น  เพื่อความร่ำรวย เพื่อฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น  มีแต่เสียงเย้ยหยัน  หลายคนก็ถากถางอย่างแรง  และเมื่อเหตุการณ์เดินหน้ามาจนถึงวันนี้ 2 ส.ค.2562 ใครก็ยอมรับได้ว่า

 

“อนุทินคือพระเอกกัญชา”

 

ความสำเร็จยิ่งใหญ่เกิดแล้วของอนุทินก็คือ  ทำให้คนไทยหลายๆคนเปลี่ยนมุมมองกัญชาเป็นสิ่งชั่วร้าย กัญชาเป็นยาเสพติด พวกที่เสพกัญชาคือพวกรกโลก  กลายมาเป็น  คนไทยเริ่มยอมรับได้  กัญชาคือสมุนไพรไทยรักษาโรค

 

กัญชามันเกิดบนแผ่นดินไทยเมื่อไหรก็ไม่รู้  มันเกิดก่อนที่จะมีมนุษย์เข้ามาอยู่อาศัยแถบนี้แน่นอน

 

บรรพบุรุษ  พ่อแม่ ปู่ย่าตายายของเรา ใช้กัญชามานานแล้ว  ใส่อาหารบริโภค  นำส่วนต่างๆของกัญชาทั้งต้น  มาทำยารักษาโรค

 

กัญชาเป็นยาสมุนไพร  ถึงวันนี้ไม่ต้องเขียนยาวแล้วครับ  รอแค่ว่าเมื่อไหร่

 

1.รัฐมนตรีอนุทินจะลงนามในประกาศกฎกระทรวงสาธารณสุข เอากัญชงออกจากกฎหมายยาเสพติด

 

2.คืนสถานะให้หมอพื้นบ้านใช้ยากัญชารักษาโรคได้

 

3.ประกาศกติกาให้ประชาชนปลูกกัญชาได้บ้านละ 6 ต้น  ภายใต้การควบคุมของ อสม.

 

ผมนำเรื่องนี้มาเขียนในวันนี้มีเป้าหมายหลัก คือ

 

ทำให้คนไทยรับรู้และเข้าใจ  การเสพไอระเหยของนิโคตินในใบยาสูบ  มีอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่แบบจุดไฟ

 

ผมเขียนด้วยความมั่นใจว่า  ท่านรัฐมนตรีอนุทินจะกลายเป็นวีรบุษผู้ทำให้ประเทศไทยไม่มีบุหรี่ได้อย่างชัวร์มาก

 

 

ประเทศไทยไม่มีบุหรี่  มันเป็นไปได้รึฉลามเขียวเอ้ย

 

ได้ครับ

 

เทรนของมนุษย์โลกมันไปทางนี้แล้ว หลายสิบประเทศในโลกอนุมัติให้สูบบุหรี่ที่ไม่จุดด้วยไฟกันแล้ว

 

ตัวผมไม่ชอบคำว่า บุหรี่ไม่จุดไฟ  เพราะมันก็ยังมีคำว่าบุหรี่อยู่ดี

 

บุหรี่คือมัจจุราช  คนไทยใครๆก็รู้

 

ตัวผมเคยเป็นคนติดบุหรี่หนักมาก  ตอนอายุยังน้อยวันละ 2 ซอง  ก็เลิกได้เพราะเกิดอาการสำลัก และไอไม่หยุด  ก็รู้ด้วยตัวเองว่า  ไม่หยุดสูบตายแน่  ก็ไม่อยากตาย  ก็หยุดเอง  การหยุดสูบบุหรี่ไม่ยาก  แค่ไม่สูบ

 

แต่มีมนุษย์มากมายบนผิวโลกที่น่ารักใบนี้  จงใจไม่เลิกสูบบุหรี่  เพราะต้องการเสพ “นิโคติน” สารจากใบยา  สารตัวนี้ทำให้เกิดอาการมีความสุข  เหมือนกับพวกติดกาแฟ  ได้คาเฟอีนเข้าไปแล้วมันสดชื่น

 

บุหรี่ดั้งเดิม  นำใบยามวน  แล้วจุดไฟ  ดูดควันเข้าไป  ในควันบุหรี่มีสารที่เป็นอันตรายต่อร่างประมาณ 6000 ชนิด

 

นิโคติน  ไม่ใช่สารก่อมะเร็ง

 

ผมจบไว้ตรงนี้นะครับ  พรุ่งนี้จะเขียนต่อ

 

เขียนจนกว่าท่านรัฐมนตรีอนุทินของผมได้ตำแหน่ง  วีรบุรุษผู้ทำให้ประเทศไทยไม่มีบุหรี่

 

 

ฉลามเขียว

2 สิงหาคม 2562

matemnews.com