นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย แถลงข่าว 10 ก.ย.2562 ว่าด้วยการทำประชาพิจารณ์ร่างพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) และร่างพระราชบัญญัติสถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย ที่ร่างโดยพรรคภูมิใจไทย เมื่อ 7 ก.ย.2562 ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ถนนพหลโยธิน ขาออก บางเขน ว่า
“ร่างกฎหมายนี้ เป็นการดำเนินนโยบายต่อเนื่องของพรรคภูมิใจไทย แรกเริ่มเดิมทีพรรคภูมิใจไทย มองว่ากัญชา มีสารสำคัญที่สามารถนำมาใช้ทางการแพทย์ และกัญชา ยังเป็นที่ต้องการของตลาด สามารถนำมาเป็นพืชเศรษฐกิจได้ จึงคิดนโยบายกัญชาขึ้นมา โดยมีเรื่องของการใช้เพื่อรักษาผู้ป่วยเป็นธงนำ ประชาชนต้องสามารถปลูก และใช้รักษาตนเองได้ บ้านละ 6 ต้น เมื่อได้เข้าร่วมรัฐบาล จึงเป็นหน้าที่ของพรรคที่ต้องผลักดันเรื่องนี้ให้สำเร็จ แต่ก็ติดปัญหากฎหมาย ทั้งของไทย และของต่างประเทศ จึงต้องหาทางแก้ไขให้นโยบายสามารถดำเนินต่อไปได้ เป็นที่มาของร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับ ที่ออกมาเพื่อแก้ล็อกกฎกรอบเดิม ร่างพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ แก้ไขเพิ่มเติม สาระสำคัญอยู่ที่มาตรา 26/2 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต นําเข้า หรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เว้นแต่ในกรณีเพื่อประโยชน์สําหรับการพัฒนาเศรษฐกิจ ในกรณีกัญชาที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis indica (Cannabis sativa forma indica) ในวงศ์ Cannabidaceaeให้บุคคลธรรมดาสัญชาติไทยสามารถปลูกเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล เพื่อการรักษาทาง การแพทย์ผลิต จําหน่าย ได้ไม่เกิน 6 ต้นต่อครอบครัว ภายใต้การควบคุม กํากับดูแล และการบริหารของสถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย ตรงนี้เป็นการแก้ล็อกกฎหมายไทย เปิดทางนโยบายกัญชา 6 ต้น ให้คนไทยได้ปลูกเพื่อรักษาตัวเอง แต่ยังมีล็อกของกฎหมายต่างชาติที่ต้องคำนึงถึง และเงื่อนไขคือ ภาครัฐต้องควบคุมการปลูกกัญชา ให้สอดคล้องกับการใช้เพื่อรักษาผู้ป่วย การควบคุมนั้นต้องทำอย่างเข้มงวด มีการทำรายงานส่งอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นประเทศไทย ก็ต้องมีหน่วยงานดังกล่าวขึ้นมา เป็นที่มาของร่างพระราชบัญญัติสถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย เพื่อดูแลกิจการที่เกี่ยวกับกัญชา และพืชยาเสพติดต่างๆ ตั้งแต่การอนุญาตให้ปลูก การจำหน่าย การรับซื้อ เป็นต้นกฎหมายของพรรคภูมิใจไทย เป็นการปิดช่องทางไม่ให้นายทุนมาใช้ประโยชน์จากกัญชา โดยระบุไว้ในร่างพระราชบัญญัติสถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย มาตรา 6 ข้อ 2 สถาบัน มีหน้าที่ออกใบอนุญาตให้ประชาชนหรือนิติบุคคลในการปลูก ผลิต จําหน่าย นําเข้า ส่งออก ภายใต้ การควบคุมและกํากับดูแล ส่วน ข้อ 3 ระบุว่า สถาบัน มีหน้าที่รับซื้อพืชยาเสพติดและผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย เท่ากับสถาบันเป็นหน่วยงานของรัฐ เป็นเพียงหน่วยงานเดียวที่ผูกขาดการอนุญาตให้ปลูก การผลิต จำหน่าย ไปจนถึงการรับซื้อกัญชา จึงหมดกังวลเรื่องนายทุน ขอย้ำว่า กฎหมายของพรรคภูมิใจไทย เน้นเรื่องผลประโยชน์ต้องตกเป็นของประชาชนเป็นลำดับแรก อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันผลักดัน เพื่อให้กัญชากลับมาเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียม”
matemnews.com
10 กันยายน 2562