จากกรณีที่นักศึกษาสาวโพสต์แฉว่าโดนดาราอักษรย่อ ฟ.ฟัน ยื่นเจลลี่หรือเยลลี่ให้รับประทานจนเธอขาดสติ และเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ลาดกระบัง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานแวดล้อม และเตรียมนัดดาราคนดังมาสอบปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 20 พ.ย. นี้ จนกลายเป็นที่พูดถึงอย่างหนักว่าดาราอักษรย่อ ฟ.ฟัน นั้นคือใคร
ล่าสุด “ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์” ดาราชื่อดังได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 วันที่ 18 พ.ย.62 ยอมรับว่าตนคือผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ไม่ได้มอมยาตามคำกล่าวอ้างแต่อย่างใด โดยเผยว่า “ผมไปร้านนั้นจริง ผมอยู่ในเหตุการณ์ครับ ฟ.ฟันคือฟรอยด์ครับ เรื่องอย่างที่บอกว่าประมาณวันอังคาร ผมก็ไปกินข้าวของผมปกติ รุ่นน้องผมก็มาพร้อมกับน้องอีกคนซึ่งเป็นผู้หญิงที่ผมไม่รู้จักส่วนตัว เขาเข้ามาในร้านกับรุ่นน้องคนนี้ เขาก็สั่งอาหาร ขนม มากินกัน ก็ไม่ได้ว่าอะไร รุ่นน้องผู้ชายผมก็สนิทกัน”
“ผมไม่ได้นัดเขามา แต่บังเอิญมาเจอกันเฉยๆ เราบังเอิญมาเจอกันที่ร้านนี้ ผมนั่งอยู่คนเดียวอยู่แล้ว พอสั่งอาหารกินกันปกติ น้องเขาบอกหนาว เขาก็บอกพนักงานในร้าน ก็ให้ปิดแอร์ให้ สักพักก็เหมือนเบลอๆ จะเป็นลม เราก็ตกใจ ผมบอกน้องให้กินน้ำหวานก่อนมั้ยอะไรแบบนี้ ที่เขียนในข่าวว่าผมเดินออกไปข้างนอก ผมคิดว่าน้องเค้าน่าจะเกิดจากการร้อนมาจากข้างนอก ฮิสโตก หรืออะไรแบบนี้ ผมก็เลยแนะนำให้เขากินอะไรก่อนมั้ย ทุกคนในร้านก็เห็น”
“เสร็จแล้วรุ่นน้องผมก็เรียกแกรปไปกับนักศึกษาคนนี้โดยที่ผมยังอยู่ในร้าน ผมก็รู้ว่าปลายทางเขาไปโรงพยาบาล ผมก็งงว่าข่าวมันมาถึงผมได้ยังไง ว่าผมไปมอมยาน้องได้อย่างไร ที่บอกว่าผมยื่นเยลลี่หรือเจลลี่ให้น้องเขา คือผมไม่ได้ยื่นให้กินอะไรทั้งนั้น เขาสั่งมากิน จอยกันบนโต๊ะ เราสั่งอาหารหลายอย่างมากินบนโต๊ะเยอะ ผมก็ไม่รู้ว่าน้องเขากินอะไรเข้าไปผิดสำแดงหรือเปล่า ถึงเกิดอาการนี้ขึ้น”
“เยลลี่ที่อ้างว่าผมเอามาจากต่างประเทศ ผมไม่รู้ว่าน้องเขาเอาข้อมูลนี้มาจากไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนได้ว่าผมไม่ได้ให้เขา ไม่ได้บังคับให้เขากินอย่างแน่นอน ขนมบนโต๊ะมีหลายอย่างมาก ขนมเราเอามาแชร์กัน ขนมก็มีของผมด้วยที่เอามาจากต่างประเทศ ของคนอื่นด้วย ก็เอามาแชร์กัน กินด้วยกันปกติ แล้วก็ไม่ได้มีการให้กิน เยลลี่ไม่ใช่ของผมครับ ผมก็งงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันลามมาถึงผมได้”
“เรื่องที่เดินออกไปสูบบุหรี่กับรุ่นน้องผู้ชาย อันนี้คือตอนที่น้องเขาเกิดอาการแล้ว พอเข้ามาน้องก็มีอาการมึน ก็บอกให้กินอะไรหวานๆ มั้ย เราก็คิดว่าน้องจะฮีสโตกหรือเหนื่อยจากข้างนอก เราไม่ได้ให้อะไรเขากิน เขาบอกว่าเขาจะไปโรงพยาบาล รุ่นน้องที่เป็นผู้ชายก็พาน้องไปรพ. ผมนั่งอยู่ร้าน ส่วนเรื่องที่บอกว่าสั่งแกรปไปปักหมุดที่อื่นที่ไม่ใช่โรงพยาบาลก็ต้องถามรุ่นน้องชายที่พาไป เพราะตอนนั้นผมอยู่ร้าน แล้วเท่าที่ทราบมาสุดท้ายแล้วเขาก็พากันไปโรงพยาบาลจริงๆ”
“ไม่ได้ไปที่โรงแรมตามที่ข่าวนำเสนอ จากที่ผมได้ทราบจากรุ่นน้อง ผมได้มีโอกาสคุยกับคุณพ่อน้องผู้หญิง น้องเขาก็หยิบไปแล้วขอคุยกับคุณพ่อเอง รุ่นน้องผมที่เป็นผู้ชายก็คุยกับคุณพ่อผู้หญิงตลอดทาง น้องผู้ชายบอกตลอดทางคุณพ่ออยู่ในสายครับ ข่าวหลายอย่างมันผิดเพี้ยนจากเดิมมาก ตอนนี้มันก็ลามมาถึงงานของผม อีเวนต์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นก็เริ่มไม่สบายใจ ผมก็ยินดีจะออกมาพูด เพราะมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับผมเลยในเรื่องนี้”
“ที่บอกว่าเจ้าหน้าที่จะเรียกไปสอบ 20 พ.ย. นี้ ตอนนี้ผมยังไม่ได้สายจากทางตำรวจ ผมไม่รู้ว่ากระบวนการมันเป็นอย่างไร แต่ผมก็ยินดี เพราะมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลย แล้วมันก็จะกระทบต่อหน้าที่การงานผมด้วย สุดท้ายแล้วถ้างานผมถูกยกเลิกทั้งหมด ก็อาจดำเนินคดีเรียกร้องค่าเสียหายต่อหน้าที่การงานของผม ถ้าผมเสียหายในงานก็คงต้องมีดำเนินคดียืนยันผมไม่ได้วางยา ไม่ได้มอมเขา ไม่ได้รู้จักส่วนตัวกับน้องเขาเลย” ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ กล่าว