อาซาฮี ชิมบุน รายงานว่า สำนักศุลกากรนาริตะได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา เกี่ยวสถิติการจับกุมการลักลอบขนยาเสพติดผ่านสนามบินนาริตะ โดยพบว่าช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ศุลกากรนาริตะตรวจพบการลักลอบขนยาเสพติดสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการจับกุมมา โดยหากเทียบกับสถิติการจับกุมของปีที่แล้ว ในแง่ของคดีเพิ่มขึ้น 4.3% ขณะที่สัดส่วนยาเสพติดที่ยึดได้เพิ่มเป็น 6.8%
จำนวนผู้ถูกจับกุมเมื่อตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 133 ราย ปริมาณยาเสพติดที่จับกุมได้รวม 272 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดทั้งในแการจับกุมหากเทียบกับปี 2011 ซึ่งเคยจับได้มากสุด 116 ราย ขณะที่ปี 2013 ญี่ปุ่นเคยยึดยาเสพติดได้มากสุดรวม 269 กิโลกรัม ซึ่งจากทั้งสองสถิตินั้นพบว่าหากเทียบกับช่วง10เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ ได้ทำลายสถิติทั้งในแง่จำนวนผู้กระทำผิดและปริมาณยาเสพติดที่ญี่ปุ่นเคยจับได้
รายงานระบุว่า ยาเสพติดที่จับได้ส่วนใหญถูกลักลอบผ่านการโดยสารสายการบินต้นทุนต่ำที่มีต้นทางจากประเทศไทย
ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศุลกากรนาริตะพบชายแคนาดาถูกจับหลังพบว่าพยายามลักลอบขนยาเสพติดจากแคนาดาเข้าญี่ปุ่น เป็นปริมาณมากถึง 30 กิโลกรัม ผ่านทางสนามบิน ซึ่งถือเป็นการยึดยาเสพติดล็อตใหญ่สุดเท่าที่เคยพบผ่านวิธีการขนทางสนามบิน
ขณะที่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้จับหญิงไทย 8 คน พยายามลักลอบขนยาเสพติดน้ำหนักรวม 8 กิโลฯ ผ่านการซ่อนไว้ตามส่วนต่างๆของร่างกายรวมถึงภายในอวัยวะเพศ โดยพบว่าทั้ง 8 ทำทีเดินทางเข้าญี่ปุ่นผ่านสายการบินต้นทุนต่ำที่มีต้นทางจากไทย