โครงการ “รวมหัวใจไปให้สุดที่แดนใต้” ภายใต้โครงการ “เที่ยวให้สุด ปักหมุด สุดแดนใต้” จัดโดยสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับมูลนิธิ มิราเคิล ออฟไลฟ์ และบริษัท คนดี ต้องทำดี จำกัด ภายใต้โครงการ “เที่ยวให้สุด ปักหมุด สุดแดนใต้” เพื่อสร้างมุมมองเชิงบวกให้เกิดการรับรู้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มิติใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ส่งเสริมการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็นที่รู้จัก รวมทั้งสนับสนุนนโยบายรัฐ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับกิจกรรมปั่นจักรยาน จากกรุงเทพฯ-อำเภอเบตง จังหวัดยะลา รวมระยะทาง 1,300 กิโลเมตร และการขี่เจ็ทสกี จากกรุงเทพฯ-หาดนราทัศน์ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส
เป็ก – สัณณ์ชัย เองตระกูล พร้อมด้วยภรรยา ธัญญ่า – ธัญญาเรศ เองตระกูล ควงคู่กันออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชน หลังจากโครงการ “รวมหัวใจไปให้สุดที่แดนใต้” สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี มียอดเงินบริจาคว่า 7 ล้านบาท เพื่อหาทุนช่วยเหลือเด็กที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบ ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
เป็ก – สัณณ์ชัย เองตระกูล กล่าวว่า แม้ทีมเจ็ทสกีจะเหนื่อยล้ากันมากแต่ก็ประสบความสำเร็จในการเข้าเส้นชัย คิดอยู่อย่างเดียวคือ เด็กๆ ที่อยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มันทำให้เราได้มีกำลังใจขึ้นมาทุกครั้ง เป้าหมายหลักคือการเอาเงินที่ได้รับบริจาคมาก็นำไปช่วยเหลือเด็กๆ สภาสังคมสงเคราะห์ฯ เป็นคนจัดการ แม้ตัวเลขมันจะไม่เยอะหากย้อนกลับไปวันแรกสิ่งที่เราตั้งใจไว้ มันได้ครบหมดทุกอย่าง สิ่งที่ได้มีทั้งมิตรภาพ เรียนรู้จากธรรมชาติ ได้ทำให้คนทั้งประเทศได้เห็นได้ยินชื่อของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้น
จากนี้ขอพักร่างกายสัก 4 – 5 เดือน และจะสานต่อหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันต่อไป ครั้งนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้น เราคนเดียวคงทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นไม่ได้หรอก แต่พอมีเพื่อนๆ มาช่วยกัน เป็นแรงฮึดให้ทุกอย่างประสบความสำเร็จอย่างที่เราเห็นในวันนี้ แม้จะเหน็ดเหนื่อย แต่ก็ยินดีครับ และพอไปถึงแต่ละที่ก็มีคนมารับพวกเรา แต่ด้วยตัวของผมเองเห็นภาพเหล่านี้มานาน ตั้งแต่เรารับราชการคือมันยิ่งทำให้เรา ยิ่งทำให้เป็นแรงบันดาลใจทำให้เกิดกิจกรรมนี้ขึ้น
แม้วันนี้เงินบริจาคของเราจะได้ 7 ล้านแต่ก็ยังจะมีบริษัทใหญ่ๆ ร่วมกันสมทบทุนอีกหลายแหล่ง และก็ยังจะเปิดรับบริจาคต่อไป เพราะโครงการนี้ จะมีอีกหลายกิจกรรม ก็คงต้องเดินต่อไป ไม่ใช่เพียงเจ็ทสกีจบ ปั่นจักรยานแล้วจบ อยากให้คนไทยทุกคนได้รู้ ได้ยินก็พอแล้ว จริงๆ แล้วภาคใต้มีอะไรที่พวกเราเองไม่รู้อีกเยอะ มีอาหารอร่อย มีผืนป่า มีทะเล และขณะที่เราขับเจ็ทสกีที่ออกจากกรุงเทพฯ จนมาถึงสงขลา และมาถึงนราธิวาส เห็นความเปลี่ยนแปลงของน้ำทะเล เห็นการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติแล้วยิ่งทะเลใน 3 จังหวัดยิ่งไม่มีขยะเลย อาจจะเป็นเพราะไม่มีคนมาท่องเที่ยว หาดทรายริมทะเลยังขาวสะอาดเพราะยังไม่มีคนได้มาเห็น สิ่งเหล่านี้ยังไม่มีคนเคยมาเห็น เราเป็นคนทำโครงการ เราก็ยังไม่ได้ตั้งหวังให้คนมาเที่ยวในทันทีทันใดแค่เขาได้เห็นกับการเอาภาพกลับไปให้เขาได้เห็น เอาชื่อปัตตานี ยะลา นราธิวาสไปให้เขาคุ้นหูมากขึ้น และน่าจะเป็นรุ่นลูกของพวกเรานั่นแหละที่จะได้ลงมาเที่ยว
ทุกอย่างมันต้องใช้เวลาเพราะมันก็ยังมีเหตุการณ์อยู่ ตามที่เราได้เห็นตามข่าวแต่อีกมุมหนึ่งอยากจะให้ทุกคนได้เห็นภาพสวยๆ ของ 3 จังหวัดบ้าง ซึ่งอาจจะยังไม่มีใครได้เคยนำเสนอ นี่คือวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ คนในพื้นที่ก็พร้อมที่จะต้อนรับ