ต่างประเทศ

ในปัจจุบันหากพูดถึงประเทศอัฟกานิสถาน เชื่อว่าภาพในหัวของหลายๆ คนก็คงจะเป็นประเทศอันตรายที่เปื้อนไปด้วยไฟแห่งสงครามและการก่อการร้าย ว่าแต่รู้หรือไม่ว่าอัฟกานิสถานไม่ได้เป็นเช่นนั้นมาตลอดหรอกนะ เพราะในช่วงปี 1960 ก่อนที่กลุ่มตอลิบาน จะเข้ามาปกครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ อัฟกานิสถานก็เคยเป็นเมืองที่งดงามน่าเที่ยวเมืองหนึ่งเลยเช่นเดียวกัน ไม่เชื่อก็ลองไปชมภาพของ Dr. Bill Podlich ศาสตราจารย์ผู้เดินทางไปยังอัฟกานิสถาน ทั้ง 30 ภาพต่อไปนี้ดูสิ ไม่แน่นะว่าความคิดของคุณเกี่ยวกับอัฟกานิสถานอาจจะเปลี่ยนไปพอสมควรเลยก็เป็นได้ ...

ต้นศตวรรษที่ 20 เป็นยุคที่ชาวแอฟริกัน-อเมริกันได้รับการเลิกทาสแล้วก็จริง แต่ก็ยังคงถูกกดขี่จากสังคมคนขาวอยู่ดี ดังนั้นใครจะไปคิดเล่าว่าในช่วงเดียวกันนี้เอง จะมีเด็กสาวชาวแอฟริกัน-อเมริกันคนหนึ่งสามารถขึ้นเป็นมหาเศรษฐีได้ ชื่อของเด็กหญิงคนนั้นคือ Sarah Rector เด็กผู้เกิดมาในพื้นที่ของอินเดียนแดง ในโอคลาโฮมา (ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่เป็นรัฐ) ในครอบครัวซึ่งมีคุณย่าเป็นอดีตทาส เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มสัญญา Muscogee หรือ “Creek Nation” กลุ่มที่เกิดจากการรวมตัวของ 5 ชนเผ่าพื้นเมืองในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ และได้รับสัญญาว่าจะได้รับการแบ่งที่ดินในตอนที่โอคลาโฮมาได้เป็นรัฐ 5 ชนเผ่าพื้นเมือง ในสนธิสัญญารัฐโอคลาโฮมา นั่นทำให้ตอนที่ Sarah อายุได้เพียง 4 ขวบเธอก็ได้รับที่ดินแห่งหนึ่งมาจากสนธิสัญญาที่ว่านี้ โดยมันเป็นที่ดินแห้งแล้งซึ่งไม่เหมาะแก่การทำการเกษตร นั่นทำให้ที่ดินแห่งนี้กลายเป็นที่ดินที่ทำประโยชน์ไม่ได้...

วานนี้ (20 พ.ย.) ปากีสถานได้กล่าวประณามเหตุวางระเบิดฆ่าตัวตายในห้องโถงจัดเลี้ยงในกรุงคาบูล เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 ราย โฆษกของกระทรวงมหาดไทยของประเทศอัฟกานิสถาน Najib Danesh กล่าวว่า เหตุระเบิดดังกล่าวส่งผลกระทบต่อโรงแรมหรูแห่งหนึ่งและห้องจัดงานแต่งงานที่ชื่อมีชื่อว่าUranus ในกรุงคาบูล โดยเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่นักวิชาการศาสนาและผู้คนมารวมตัวกันอยู่ที่นั่น "ผู้กระทำความผิดสมควรถูกประณามเพราะได้กระทำการโจมตีที่ชั่วร้ายเหี้ยมโหด ไม่ว่าจะมองจากหลักการของศาสนาใดตลอดจนหลักมนุษยธรรมทั้งมวล เราประณามการก่อการร้ายไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดและแสดงออกในแบบใด" มูฮัมหมัด ไฟซาล (Mohammad Faisal) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศปากีสถานกล่าว แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศระบุด้วยว่า"เราขอยืนหยัดเคียงข้างและแบ่งปันความเศร้าโศกของชาวอัฟกานิสถานในช่วงเวลาอันน่าเศร้านี้" นอกจากนี้ เขายังได้แสดงความเห็นใจและความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวและญาติมิตรของผู้ที่เสียชีวิตและขอให้ผู้ที่บาดเจ็บฟื้นตัวในเร็ววัน       ข้อมูลโดย เพจ : China...

กลายเป็นเรื่องที่ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนต้องออกมาตั้งข้อสงสัยกันอีกครั้ง หลังจากที่มีการเปิดเผยคลิปวิดีโอของวัตถุน่าสงสัย ที่ลอยอยู่ด้านนอกหน้าต่างเครื่องบิน จากข้อมูลระบุว่าคลิปวิดีโอนี้ ถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตชื่อ Kerry ซึ่งถ่ายไว้ระหว่างที่เครื่องบินกำลังบินอยู่เหนือน่านฟ้าของทะเลอีเจียน ภายในคลิปวิดีโอได้เผยให้เห็นวัตถุสีดำที่กำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า ในระดับเดียวกับเครื่องบิน ซึ่งเมื่อสังเกตดีๆ แล้วมันมีลักษณะไม่เหมือนกับเครื่องบินเลย และชาวเน็ตส่วนมากบอกว่า นี่อาจจะเป็น UFO ?? “Kerry นั่นอะไรน่ะ” เสียงเพื่อนของเจ้าของคลิปถาม ก่อนที่เจ้าของคลิปจะตอบกลับมาว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร https://www.youtube.com/watch?v=cKQToukSqOw อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยจากผู้เชี่ยวชาญว่า เจ้าวัตถุประหลาดที่เห็นในคลิปวิดีโอนี้คืออะไรกันแน่ และคงต้องรอผู้เชี่ยวชาญออกมาอธิบายภาพปรากฏการณ์นี้กันอีกที         ที่มา unilad, nypost , catdumb

ชวนชมภาพอาสาสมัครกว่า 4,000 คน ที่มายืนเรียงเป็นห่วงโซ่มนุษย์ยาว 4 กิโลเมตร เพื่อขนย้ายหนังสือเล่มต่อเล่มเกือบ 600 เล่มจากหอสมุดเก่าไปยังหอสมุดใหม่ของมหาวิทยาลัยไซปรัส เมื่อวันจันทร์ (19 พ.ย.) ที่ผ่านมา รายงานระบุว่า “ห่วงโซ่แห่งความรู้” นี้ มีเป้าหมายเพิ่มความสนใจในการอ่านหนังสือของสาธารณชน และดึงดูดใจเหล่าหนอนหนังสือมาเยือนหอสมุดแห่งใหม่ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในไซปรัสและเชื่อมโยงออนไลน์กับหอสมุดทั่วโลก ทั้งนี้ หนังสือเกือบ 600 เล่มเป็นหนังสือชุดสุดท้ายจากหนังสือทั้งหมดมากกว่า 500,000 เล่ม ที่ถูกโยกย้ายไปยังหอสมุดแห่งใหม่ ...

วินาทีอันน่าประทับใจของคุณย่าอดีตนักเต้นวัย 102 ปี ที่ได้มีโอกาสเห็นภาพเคลื่อนไหวจากการแสดงของตัวเองเป็นครั้งแรกในชีวิต!! คุณย่า Alice Barker กำลังมีความสุขอย่างมากหลังจากที่ได้มีโอกาสเห็นการแสดงของเธอในช่วงปี 1930 ที่ Harlem Renaissance คลับชื่อดังในยุคนั้น เธอเคยปรากฏตัวในภาพยนตร์โฆาณาและรายการทีวีในสมัยนั้น แต่โดยส่วนตัวแล้วเธอเองไม่เคยมีภาพหรือของที่ระลึกจากการแสดงของเธอเลย นั่นจึงทำให้คุณย่าท่านนี้ไม่เคยได้เห็นภาพการแสดงของเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่หลังจากที่ได้พบกับ David Shuff เมื่อประมาณปีก่อนและได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอ ก็ทำให้คุณย่าท่านนี้ได้มีโอกาสเห็นภาพเคลื่อนไหวของตัวเอง หลังจากใช้เวลาค้นคว้าอยู่นานคุณ Shuff ก็ได้พบกับคุณ Mark Cantor นักสะสมภาพถ่ายเกี่ยวกับดนตรีแจ๊สเจ้าของเว็บไซต์ Jazz on Film ทั้งสองพบว่าคลิปวิดีโอของการเต้นของคุณย่านั้นก็ได้มีการบันทึกไว้เช่นเดียวกัน แต่ทว่ามีการสะกดตัวอักษรผิดทำให้ไม่สามารถค้นเจอได้ คุณ Barker มีความสุขอย่างมากระหว่างที่เธอกำลังชมคลิปวิดีโอดังกล่าว คุณย่าอายุกว่า 100 ปียังจำเพลงที่เธอเต้นวันนั้นได้เป็นอย่างดีเธอร้องเพลงตามด้วยในระหว่างที่ชมวิดีโอนั้น...

บนโลกของเรานี้มีมนุษย์อยู่มากมายหลายเชื้อชาติ ซึ่งเรื่องเชื้อชาตินี้เองก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน บางทีการทำอะไรบางอย่างเลียนแบบชนชาติอื่นอาจก่อให้เกิดความไม่พอใจขึ้นได้ เหมือนอย่าง Regina Todorenko ศิลปินสาวชาวยูเครนวัย 28 ปีคนนี้ ที่โพสต์ภาพลงอินสตาแกรมเพื่อสนับสนุนคนยิ้มให้แก่กันมากขึ้นเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่าน แต่ทว่าภาพที่เธอลง เธอกลับใช้นิ้วดึงตาให้ตี่เหมือนกับชาวเอเชีย จึงถูกชาวเน็ตเข้ามารุมกระหน่ำว่าที่เธอโพสต์ลงไปนั้นมันคือการเหยียดชาวเอเชีย ภาพดังกล่าวถูกโพสต์เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2018 แต่เพิ่งจะเป็นประเด็นเมื่อไม่นานมานี้ โดยในโพสต์ดังกล่าว เธอได้ใช้แคปชั่นเป็นภาษารัสเซียว่า “ฉันเพิ่งได้อ่านบทความเกี่ยวกับชาวสลาฟ (กลุ่มคนเชื้อชาติหนึ่งที่มีการตั้งถิ่นฐานบริเวณทางตะวันออกและตอนกลางของยุโรป) เป็นกลุ่มที่ชอบถ่ายเซลฟี่มากที่สุดในโลก แต่ในภาพแต่ละภาพดูเหมือนพวกเขาจะยิ้มน้อยกว่าชาวอเมริกันและญี่ปุ่นอย่างมีนัย และภายหลังฉันก็พบว่าประเทศใดที่มีผู้อพยพมากๆ อัตราการยิ้มจะเพิ่มสูงขึ้นใน 500 ปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งบางทีมันอาจจะเป็นรอยยิ้มของคนที่ถูกต้อนรับสู่ประเทศใหม่ ” “ฉันเคยไปมาแล้วทั้งอเมริกาและญี่ปุ่นและก็ตระหนักได้ว่าผู้คนยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัย มันทำให้ฉันหัวเสียเล็กๆ เพราะว่าความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันมันดูปลอม หลังจากที่ได้อาศัยอยู่สภาพแวดล้อมแบบนั้นเป็นเวลาไม่นาน...

เพจ China Xinhua News รายงานว่า ชาวเน็ตแดนมังกรถกเถียงเผ็ดร้อน กรณีหญิงสาวจากมณฑลอานฮุยทางจีนตะวันออก ถูกศาลพิพากษาโทษจำคุกเป็นเวลา 10 ปี เนื่องจากมีความผิดฐานเขียนและเผยแพร่นิยายกามารมณ์ของคนเพศเดียวกัน ชี้บทลงโทษรุนแรงเกินไป รายงานระบุว่าตำรวจเมืองอู๋หูของมณฑลอานฮุยจับตาดูความเคลื่อนไหวของหญิงแซ่หลิว ผู้ใช้นามปากกาเทียนอี (Tianyi) หลังจากนิยายชื่อ “กงจ้าน” (Gongzhan) หนึ่งในผลงานของเธอ กลายเป็นกระแสโด่งดังบนโลกออนไลน์ในปี 2017 ตำรวจอู๋หูกล่าวว่านิยายกงจ้านที่เล่าเรื่องราวทางเพศอันลามกหยาบโลนระหว่างผู้ชายด้วยกัน และเต็มไปด้วยฉากเพศสัมพันธ์อันไม่เหมาะสมอย่างเช่นการล่วงละเมิดและการทารุณทางเพศ ขายได้หลายพันครั้งในเวลาไม่กี่เดือน นอกจากเรื่องกงจ้าน เทียนอียังเผยแพร่นิยายรักร่วมเพศอีกกว่า 7,000...

เว็ปไซต์ catdumb ได้นำเสนอเรื่องราวของพนักงานคิดเงินในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เธอระบุตัวว่าเป็น หญิงตะวันตกผิวขาว และได้ออกมาเล่าถึงเหตุการณ์ที่เธอถูกลูกค้าชาวจีนว่ากล่าวนินทา “เป็นภาษาจีน” ผ่านเว็บไซต์ Tumblr เธอเล่าว่า… “ฉันเป็นหญิงตะวันตกผิวขาว ฉันพูดภาษาอังกฤษแต่ฉันใช้ภาษาจีนกลางได้คล่องเช่นกัน ถ้าเพียงแค่มองคุณจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าฉันเองก็พูดภาษาจีนได้ และนั่นทำให้ฉันได้พบกับเหตุการณ์นี้ วันหนึ่งมีคู่รักชาวจีนเดินมาต่อแถวตรงหน้าฉัน จากนั้นฉันก็ถามคำถามต่างๆ กับพวกเขาเป็นภาษาอังกฤษ เช่น รับถุงพลาสติกไหม? หรือ มีบัตรสะสมแต้มไหม? เป็นต้น ขณะที่ฉันกำลังหยิบของใส่ถุงพลาสติก ฉันได้ยินฝ่ายภรรยาบอกกับสามีของเธอเป็นภาษาจีนว่า ‘บอกนางหน่อยว่าอย่าทำกล้วยช้ำ’ ตอนนั้นฉันก็เงียบ แต่อีกประโยคที่ตามมาก็คือ ‘บอกนังโง่นี่ทีว่าให้เร็วกว่านี้‘ แต่ฉันก็ยังยิ้มให้เธอราวกับว่าฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดคืออะไร” “จากนั้นฝ่ายภรรยาก็วิจารณ์ฉันเป็นภาษาจีนยกใหญ่ เช่นบอกว่าผมของฉันเหมือนกับผู้ชาย (ฉันตัดผมสั้น แต่ก็ไม่ได้สั้นขนาดนั้น) แล้วก็ประชดว่าปู่ของเธอน่าจะตายก่อนที่ฉันจะจัดของใส่ถุงเสร็จอะไรประมาณนี้ จากนั้นเธอก็พูดเป็นภาษาจีนอีกว่า...

เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่สถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยชายชราวัย 80 กว่าปีรายหนึ่งเดินเข้ามาขอความช่วยเหลือจากพนักงานที่สถานีโดยเล่าว่าตนทำกระเป๋าหาย ในกระเป๋ามีเอกสารหลักฐานยืนยันตัวตนต่างๆ และมีเงินเก็บของตัวเองที่เก็บมาทั้งชีวิต พนักงานจึงช่วยกันตามหากระเป๋าจนเจอและนำมาคืนและพาคุณลุงไปรับกระเป๋า นาทีที่ได้ของคืน ชายชราดีใจมากจนลงไปนั่งคุกเข่าขอบคุณ เพราะของในกระเป๋าเป็นเสมือนความหวังและความมั่นคงของชีวิตที่เหลืออยู่ของแก เรื่องราวดีๆ เรื่องนี้ทำให้ชาวเน็ตจีนเข้ามาขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ช่วยคุณลุง ชาวเน็ตรายหนึ่งแสดงความเห็นว่า “กลุ่มคนที่น่าสงสารมากที่สุดในสังคมคือผู้ใช้แรงงานที่เกิดช่วงหลังปี 1960 และ 1970 พวกเขาใช้วัยหนุ่มสาวของตัวเองไปกับการสร้างหัวเมืองใหญ่ๆ ขึ้นมา แต่ตอนนี้เรามาถึงยุคที่เครื่องจักรเข้ามาทำงานแทนคนได้ พวกเขาจึงถูกคัดออก แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขายังต้องหาเลี้ยงชีพและครอบครัว...